นางอารีย์ โสมวดี รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ถึงการจัดประชุม คณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม AEOC ชั้น 2 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยมี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง)เป็นประธาน เพื่อร่วมกันพิจารณาประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ พ.ศ. 2557 – 2559 ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป
สำหรับยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ พ.ศ. 2557 – 2559 มีวิสัยทัศน์ คือ “ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต การค้า และการบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ในระดับสากล” และมีประเด็นยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อน 4 ด้าน ได้แก่
ยุทธศาสตร์ 1 การบริหารจัดการองค์ความรู้และนวัตกรรม มีวัตถุประสงค์จัดทำฐานข้อมูลเกษตรอินทรีย์องค์ความรู้ให้เป็นระบบเข้าถึงได้ง่าย เพื่อพัฒนาองค์ความรู้/ฐานข้อมูลให้เป็นระบบ รวมทั้งพัฒนางานวิจัย/นวัตกรรมเกษตรอินทรีย์เชิงธุรกิจ
ยุทธศาสตร์ 2 การพัฒนาการผลิตเกษตรอินทรีย์ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน มีวัตถุประสงค์พัฒนาและเชื่อมโยงระบบการผลิตจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ในลักษณะเครือข่ายการผลิต การแปรรูป การตลาดทุกระดับให้เข้มแข็ง เพื่อสร้างความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่และปริมาณการผลิตและจำนวนผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ ทั้งเกษตรอินทรีย์พื้นบ้านและเกษตรอินทรีย์เชิงพาณิชย์
ยุทธศาสตร์ 3 การสร้างความเข้มแข็งด้านการตลาดและ มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ไทย มีวัตถุประสงค์เพิ่มปริมาณสินค้าและการบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ พร้อมทั้งสร้างอัตลักษณ์และความเชื่อมั่นให้กับสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทย โดยมีเป้าหมายให้มีตลาดสินค้าอินทรีย์/ตลาดสีเขียวระดับอำเภอ ระดับจังหวัดรวมทั้งให้สินค้าเกษตรอินทรีย์/ผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองมาตรฐานรวมถึงการพัฒนาการตลาดระบบสมาชิกและการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ผลิต/ผู้บริโภค
ยุทธศาสตร์ 4 การบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ไทย มีวัตถุประสงค์ผลักดันการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ไทยให้บรรลุเป้าหมาย โดยจัดตั้งหน่วยงานกลางในการขับเคลื่อน พร้อมทั้งสร้างระบบเชื่อมโยงฐานข้อมูลเกษตรอินทรีย์ รวมถึงการสร้างกลไกพัฒนาเกษตรอินทรีย์แบบบูรณรณาการในระดับพื้นที่และชุมชนเกษตรอินทรีย์ต้นแบบในแต่ละจังหวัด
ทั้งนี้ ในส่วนของกระบวนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ ไปสู่การปฏิบัติ ได้กำหนดแผนปฏิบัติการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ (Supply Chain) โดยจะมีคณะกรรมการ และคณะทำงานขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ ทั้งจากผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคเกษตรกร รวมถึง NGO สถาบันการศึกษา และมูลนิธิฯ ต่างๆ ในการรวมกันผลักดันเพื่อให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ รองเลขาธิการกล่าวในที่สุด
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--