นายอนันต์ ลิลา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 24 เมื่อวันที่ 10–11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ ในหัวข้อ “Moving Forward in Unity to a Peaceful and Prosperous Community” นั้น ได้มีการทบทวนแผนและติดตามการดำเนินงาน เพื่อมุ่งสู่ประชาคมอาเซียนและเน้นย้ำประเด็นสำคัญที่จะต้องเร่งรัดดำเนินการเพื่อกำหนดทิศทางและวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายหลังปี 2558 (ASEAN Community’s Post–2015 Vision) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมความร่วมมือในการสร้างสันติภาพให้กับภูมิภาคและเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ ทั้งจากปัญหาดั้งเดิมด้านความมั่นคงในเรื่องข้อพิพาทเขตแดนทั้งบนบกและในทะเล ตลอดจนปัญหารูปแบบใหม่ เช่น ความมั่นคงด้านอาหาร ปัญหาหมอกควัน และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
จากผลการประชุมดังกล่าว ผู้นำอาเซียนได้แสดงความพึงพอใจต่อความสำเร็จและความก้าวหน้าของกรอบความร่วมมือด้านอาหาร การเกษตร และป่าไม้ รวมถึงการสนับสนุนการพัฒนาและบังคับใช้ระบบการจัดการด้านคุณภาพสำหรับสินค้าเกษตร โดยการส่งเสริมความร่วมมือและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเกษตรทั้งที่เป็นการดำเนินการระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานองค์กรระหว่างประเทศ ประเทศคู่เจรจา และภาคเอกชน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรอาเซียนในตลาดโลก นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาค โดยการสนับสนุนให้ดำเนินการจัดทำแผนกลยุทธ์ด้านความมั่นคงอาหารระยะที่ 2 (ปี ค.ศ. 2015–2020) ที่มุ่งเน้นให้ประชากรในอาเซียนมีอาหารบริโภคอย่างเพียงพอ ปลอดภัย และมีโภชนาการที่ดี
ในเรื่องดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตระหนักและให้ความสำคัญ โดยจัดทำกรอบยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านอาหารของกระทรวงเกษตรฯ ปี พ.ศ. 2556-2559 ซึ่งครอบคลุมประเด็นสำคัญใน 4 ด้าน ดังนี้ 1) ให้มีอาหารที่มีคุณภาพเพียงพอกับความต้องการบริโภคของประชากร 2)ให้ประชากรเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพและคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสม 3) ใช้ประโยชน์จากอาหารในการบริโภค ที่ทำให้ความเป็นอยู่ทางกายภาพได้รับการตอบสนองอย่างเพียงพอ และ 4) ให้ประชาชน ครัวเรือน และบุคคล เข้าถึงอาหารได้อย่างเพียงพอตลอดเวลา ไม่มีความเสี่ยงเมื่อเกิดความขาดแคลนขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ทั้งนี้ สำหรับประเด็นความปลอดภัยด้านอาหาร กระทรวงเกษตรฯ ยังได้ให้ความสำคัญในการผลิตสินค้าเกษตรที่มีความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีโครงการพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน ซึ่งเป็นโครงการ Flagship ในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งเน้นส่งเสริมให้มีการผลิตสินค้าเกษตรที่ปลอดภัย รองรับกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน และสร้างจุดแข็งให้กับสินค้าเกษตรของไทยให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในตลาดอาเซียนและตลาดโลกอย่างมีประสิทธิภาพ เลขาธิการ สศก. กล่าวทิ้งท้าย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--