สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
1. การผลิต
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้พยากรณ์เนื้อที่ให้ผล ผลผลิต ผลผลิตต่อไร่
ปี 2557 ดังนี้ เนื้อที่ให้ผลผลิตกาแฟจะมีประมาณ 263,602 ไร่ ลดลงจากปี 2556 จำนวน 33,213 ไร่ หรือลดลงร้อยละ 11.19 ผลผลิต 38,458 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 992 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.65 และผลผลิตต่อไร่ต่อเนื้อที่ให้ผล เฉลี่ยไร่ละ 146 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 20 กิโลกรัมต่อไร่ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.87 ทั้งนี้เนื้อที่ให้ผลรวมทั้งประเทศลดลง จากเกษตรกรในแหล่งปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสตาภาคใต้ได้โค่นต้นกาแฟ ที่ปลูกแซมไม้ผลไม้ยืนต้นออก แต่ภาคกลางที่มีการปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสตาและทางภาคเหนือที่เป็นแหล่งปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิกานั้น มีเนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้นจากการปลูกแซม ไม้ผลและไม้ยืนต้นและปลูกในพื้นที่ป่าชุมชนต้นตั้งแต่ปี 2553 เริ่มให้ผลในปีนี้ ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ไม่กระทบแล้งในช่วงออกดอกเหมือนปีที่ผ่านมา และต้นกาแฟมีความสมบูรณ์ดีเนื่องจากเนื้อที่ให้ผลกาแฟพันธุ์อาราบิกาในแหล่งผลิตทางภาคเหนือ
ภาคเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิกาเนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้น จากต้นกาแฟที่ปลูกแซมในสวนยางพารา แมคคาเดเมีย และลิ้นจี่ ในจังหวัดเชียงราย และเชียงใหม่ และในพื้นที่ป่าชุมชนที่ทางภาครัฐสนับสนุนให้เกษตรกรปลูก เช่น จังหวัดตาก และแพร่ ตั้งแต่ปี 2553 ได้ทยอยให้ผลผลิตเป็นปีแรก ผลผลิตต่อไร่ลดลงเนื่องจากปลายปี 2556 ถึง ต้นปี 2557 บางพื้นที่ของภาคเหนือตอนบน เช่น จังหวัดเชียงใหม่ มีสภาพอากาศที่หนาวมากทำให้เมล็ดกาแฟฝ่อ และมีมอดเจาะผลกาแฟระบาด ทำให้ผลผลิตกาแฟเสียหาย
ภาคกลาง พื้นที่ส่วนใหญ่ปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสตาเนื้อให้ผลที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี เกษตรกรมีการปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสตาเพิ่มขึ้นในพื้นที่รกร้างนับตั้งแต่ปี 2553 จึงเริ่มให้ผลในปีนี้ ผลผลิตต่อไร่ของภาคกลางในปีนี้เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการติดดอกออกผล
ภาคใต้ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสตาเนื้อที่ให้ผลลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากต้นยางพารา ปาล์มน้ำมัน และทุเรียนที่เกษตรกรปลูกแซมในสวนกาแฟไว้เริ่มให้ผลผลิตเกษตรกรจึงโค่นต้นกาแฟออก ถึงแม้ว่าราคากาแฟในปีที่ผ่านมาจะเพิ่มสูงขึ้นแต่ต้นทุนก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย จึงไม่จูงใจให้เกษตรกรปลูกต่อไป โดยจังหวัดที่มีการโค่นต้นกาแฟมาก ได้แก่ จังหวัดชุมพร ระนอง และสุราษฏร์ธานี ผลผลิตต่อไร่ในภาคใต้เพิ่มขึ้นจากสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวยต่อการติดดอกออกผล ไม่กระทบแล้งในช่วงออกดอกเหมือนปีที่ผ่านมา ประกอบกับภาครัฐมีโครงการปรับโครงสร้างสินค้ากาแฟแบบครบวงจร เน้นลดพื้นที่เพาะปลูกและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ เพื่อให้ต้นกาแฟได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ ในแหล่งผลิตที่สำคัญได้แก่ จังหวัดชุมพรและระนอง
กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ รายงานความต้องการใช้เมล็ดกาแฟในปี 2556 ของโรงงานแปรรูปในประเทศ มีปริมาณสูงขึ้น จาก 67,628 ตัน ในปี 2555 เป็น 70,000 ตัน
ในปี 2556 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.52 เนื่องจากการบริโภคในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และคาดคะเนความต้องการใช้กาแฟของปี 2557 ว่าจะมีประมาณ 75,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.14
ปี ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของโรงงาน (ตัน) 2551 57,500 2552 53,803 2553 58,000 2554 61,480 2555 67,620 2556 70,000 อัตราเพิ่ม/ลด (ร้อยละ) 5.06 2557* 75,000 หมายเหตุ * : ประมาณการ ที่มา : กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
การค้า
การส่งออกกาแฟขอไทยในปี 2557 ในช่วง 4 เดือนแรก (มค. – เม.ย.) ของปี มีปริมาณ 146.59 ตัน มูลค่า 30.51 ล้านบาท ลดลง จาก 173.85 ตัน มูลค่า 33.94 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 15.86 และ 10.11 ตามลำดับ สำหรับกาแฟสำเร็จรูปมีการส่งออก 610.49 ตัน มูลค่า 106.92 ล้านบาท สูงขึ้นจาก 472.77 ตัน มูลค่า 91.65 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 29.13 และ 16.66 ตามลำดับ และไทยนำเข้าเมล็ดกาแฟ ปริมาณ 983.81 ตัน มูลค่า 126.55 ล้านบาท ลดลงจากปริมาณ 1,569.01 ตัน และมูลค่า 151.05 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็น ร้อยละ 37.30 และ 16.22 ตามลำดับ สำหรับกาแฟสำเร็จรูปมีการนำเข้าปริมาณ 2,065.18 ตัน มูลค่า 624.42 ล้านบาท สูงขึ้นจาก 2,009.09 ตัน และลดลงจากมูลค่า 641.50 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นลดลงร้อยละ 2.79 และ 2.66 ตามลำดับ
กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) รายงานผลผลิตกาแฟโลกปี 2555/56 มีปริมาณ 9.20 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 8.64 ล้านตัน ของปี 2554/55 ร้อยละ 6.48 เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย และ คาดคะเนว่าจะมีผลผลิต ในปี 2556/57 ประมาณ 9.03 ล้านตัน ลดลง 0.17 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 1.85
บราซิล ผู้ผลิตกาแฟอันดับ 1 ของโลก ในปี 2555/56 มีผลผลิต ปริมาณ 3.37 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 0.42 ล้านตัน ในปี 2554/55 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.24 และคาดคะเนว่าจะมีผลผลิต ในปี 2556/57 ประมาณ 3.19 ล้านตัน ลดลง 0.18 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 5.34
เวียดนาม ผู้ผลิตกาแฟอันดับ 2 ของโลก และเป็นผู้ผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสตาอันดับ 1 ของโลก มีผลผลิตกาแฟปี 2555/56 ปริมาณ 1.59 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 1.56 ล้านตัน ในปี 2554/55 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.92 และคาดคะเนว่าจะมีผลผลิต ในปี 2556/57 ประมาณ 1.71 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 0.12 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.55
กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา รายงานความต้องการใช้กาแฟของโลกปี 2555/56 มี 8.53 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 8.50 ล้านตันของปี 2554/55 ร้อยละ 0.35 และคาดคะเนความต้องการใช้กาแฟของปี 2556/57 ว่าจะมีประมาณ 8.67 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.64
การส่งออก
กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา คาดคะเนการส่งออกกาแฟโลกปี 2555/56 มี 6.97 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 6.87 ล้านตัน ในปี 2554/55 ร้อยละ 1.46 ประเทศที่ส่งออกมากที่สุดได้แก่ บราซิล โดยคาดว่าจะส่งออกในปี 2555/56 ปริมาณ 1.84 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 1.79 ล้านตัน ของปี 2554/55 ร้อยละ 2.79 เนื่องจากผลผลิตเพิ่มขึ้น รองลงมาได้แก่ ประเทศเวียดนาม คาดว่าจะส่งออก ปริมาณ 1.45 ล้านตัน ลดลงจากปี 2554/55 ร้อยละ 1.36 เนื่องจากผลผลิตลดลง
ผลผลิตกาแฟโลกปี 2551/52 -2556/57
หน่วย : ล้านตัน
ประเทศ ปี 2551/52 ปี 2552/53 ปี 2553/54 ปี 2554/55 ปี 2555/56 อัตราเพิ่ม (ร้อยละ) ปี 2556/57* 1 บราซิล 3.198 2.688 3.27 2.952 3.366 1.98 3.186 2. เวียดนาม 1.018 1.11 1.164 1.56 1.59 13.112 1.71 3. อินโดนีเซีย 0.6 0.63 0.559 0.498 0.63 -1.366 0.57 4. โคลัมเบีย 0.519 0.486 0.511 0.459 0.595 2.185 0.6 5. เอธิโอเปีย 0.331 0.36 0.368 0.379 0.38 3.33 0.381 6. อินเดีย 0.263 0.29 0.302 0.313 0.318 4.667 0.307 7. ฮอนดูรัส 0.194 0.213 0.239 0.336 0.279 12.553 0.3 8. เม็กซิโก 0.24 0.249 0.24 0.258 0.27 2.748 0.228 9. เปรู 0.24 0.198 0.246 0.312 0.258 6.177 0.231 10. กัวเตมาลา 0.273 0.24 0.237 0.264 0.252 -0.646 0.233 19. ไทย 0.048 0.054 0.051 0.051 0.051 0.643 0.051 อื่นๆ 1.25 1.194 1.24 1.26 1.207 -0.162 1.231 รวม 8.174 7.712 8.427 8.642 9.196 3.557 9.028 ที่มา: กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (ธันวาคม 56) ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของโลก
หน่วย : ล้านตัน
ปี ปริมาณ 2551/52 7.48 2552/53 8.234 2553/54 8.027 2554/55 8.495 2555/56 8.532 อัตราเพิ่ม (ร้อยละ) 2.988 2556/57* 8.665 ทีมา : กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (ธันวาคม 56) ราคาตลาดในประเทศ
-ไม่มีรายงาน เนื่องจากหมดฤดูการเก็บเกี่ยว-
ราคาเมล็ดกาแฟดิบอาราบิก้า ตลาดนิวยอร์กซื้อขายทันทีเฉลี่ย 189.08 เซนต์/ปอนด์ (134.64 บาท/กิโลกรัม) ลดลงจาก 195.60 เซนต์/ปอนด์ (139.43 บาท/กิโลกรัม) ร้อยละ 3.33
ราคาเมล็ดกาแฟดิบโรบัสตา ตลาดนิวยอร์กซื้อขายทันที่เฉลี่ย 106.83 เซนต์/ปอนด์ (75.84 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจาก 107.53 เซนต์/ปอนด์ (77.05 บาท/กิโลกรัม) ร้อยละ 0.65
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 14 - 20 ก.ค. 2557--