ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร: ข้าว

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 18, 2014 14:27 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ

1.1 การตลาด

1) ปีการผลิต 2556/57

มาตรการแก้ไขปัญหา

โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57

ผลการดำเนินงาน จำนวนเกษตรกรที่รับเงินกับ ธ.ก.ส. (ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2556–10 พฤศจิกายน 2557)

  • จำนวนสัญญา 1,825,537 สัญญา
  • จำนวนตัน 11,652,130 ตัน
  • จำนวนเงิน 191,603.289 ล้านบาท
2) ปีการผลิต 2557/58

— มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ปีการผลิต 2557/58 มติ ครม.คสช. เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2557 และมติที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 1/2557 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 เห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2557/58 ดังนี้

2.1) มาตรการหลัก

  • ลดต้นทุนการผลิต โดยการลดราคาปัจจัยการผลิตและบริการ ไร่ละ 432 บาท แบ่งเป็น ปุ๋ยเคมีไร่ละ 40 บาท สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชไร่ละ 20 บาท ค่าเมล็ดพันธุ์ไร่ละ 122 บาท ค่าบริการรถเกี่ยวข้าวไร่ละ 50 บาท และค่าเช่าที่นาไร่ละ 200 บาท

2.2) มาตรการสนับสนุน

(1) มาตรการเร่งด่วน

(1.1) สนับสนุนแหล่งเงินทุน ได้แก่ โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร และการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกร

(1.2) ส่งเสริมการตลาด ได้แก่ การเร่งหาตลาดใหม่ การเชื่อมโยงการตลาดข้าวในประเทศและต่างประเทศ การช่วยเหลือผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก และโครงการสินเชื่อเกษตรกรเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือก (ประกันยุ้งฉาง)

(1.3) ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ได้แก่ โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2557

(2) มาตรการระยะยาว

(2.1) ส่งเสริมปัจจัยการผลิต ได้แก่ การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ การจัดตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์ข้าว การจัดตั้งธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ การกำหนดเขตเกษตรเศรษฐกิจ (Zoning) และการจัดหาแหล่งน้ำสนับสนุน

(2.2) ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ได้แก่ การจัดตั้งสถาบันพัฒนาศักยภาพการค้าข้าว

ปรับปรุงข้อมูล ณ วันที่ 2 กค. 57

และการจัดตั้งกองทุนข้าวและชาวนาแห่งชาติ — มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย

มติที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2557 เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ 3 เดือนแรก ในส่วนของมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย โดยให้เงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท แก่ชาวนาที่จดทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเปิดบัญชีไว้กับ ธ.ก.ส. ซึ่งมีที่ดินทำกินไม่เกิน 15 ไร่ และชาวนาที่มีที่ดินมากกว่า 15 ไร่ ให้เงินช่วยเหลือครอบครัวละ 15,000 บาท เพื่อช่วยเหลือชาวนาให้มีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ

ผลการดำเนินงาน

1. กรมส่งเสริมการเกษตร (กสก.) ข้อมูล ณ วันที่ 12 พ.ย. 57
          - ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว            3.041 ล้านครอบครัว           52.965 ล้านไร่

2. ธ.ก.ส. ข้อมูล ณ วันที่ 13 พ.ย. 57
          - กสก. ตรวจสอบและส่งให้ ธ.ก.ส.  1.069 ล้านครอบครัว          12.328 ล้านไร่
           - ธ.ก.ส. โอนเงินให้เกษตรกร     0.426 ล้านครอบครัว      5,082.071 ล้านบาท

ภาวการณ์ซื้อขายข้าวสัปดาห์นี้ ราคาที่เกษตรกรขายได้เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้าวเปลือกเจ้า หอมมะลิ และข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาลดลง เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตทยอยออกสู่ตลาดมาก ประกอบกับบางพื้นที่มีฝนตก ทำให้ข้าวมีความชื้นสูง

1.2 ราคา
1) ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ

ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 13,354 บาท ราคาลดลงจากตันละ 14,228 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 6.14

ราคาข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 7,881 บาท ราคาลดลงจากตันละ 7,900 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 0.24

2) ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ

ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 12,300 บาท ราคาลดลงจากตันละ 12,350 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 0.40

3) ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี.

ราคาข้าวหอมมะลิไทย ชั้น 1 (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 981 ดอลลาร์สหรัฐฯ (29,913 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 986 ดอลลาร์สหรัฐฯ (31,965 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.51 และลดลง ในรูปเงินบาทตันละ 2,052 บาท

ราคาข้าวปทุมธานี ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 558 ดอลลาร์สหรัฐฯ (18,182 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 562 ดอลลาร์สหรัฐฯ (18,220 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.71 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 38 บาท

ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 413 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,457 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 421 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,649 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.90 และลดลงในรูปเงินบาท ตันละ 192 บาท

ราคาข้าวสารเจ้า 25% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 395 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,871 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 403 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,065 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.99 และลดลงในรูปเงินบาท ตันละ 194 บาท

ราคาข้าวนึ่ง 5% ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 416 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,555 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 418 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,551 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.48 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 4 บาท

หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 32.5846 บาท

2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ

เวียดนาม

กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ในปี 2556/57 (มกราคม – ธันวาคม 2557) เวียดนามส่งออกข้าว 6.5 ล้านตัน ลดลงจาก 6.7 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปี 2555/56 เนื่องจากต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงกับไทย อินเดีย ปากีสถาน รวมทั้งประเทศผู้ส่งออกรายใหม่อย่างกัมพูชาและเมียนมาร์

ด้านการผลิต กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ในปี 2556/57 เวียดนามผลิตข้าวได้ประมาณ 45.058 ล้านตันข้าวเปลือก (หรือประมาณ 28.16 ล้านตันข้าวสาร) เพิ่มขึ้นจาก 44.059 ล้านตันข้าวเปลือก (หรือประมาณ 27.537 ล้านตันข้าวสาร) หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปี 2555/56 และเพิ่มขึ้นจากการประมาณการอย่างเป็นทางการครั้งล่าสุดของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ที่คาดการณ์ไว้ที่ 44.477 ล้านตัน (หรือประมาณ 28 ล้านตันข้าวสาร) เนื่องจากผลผลิตข้าวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตามพื้นที่ปลูกข้าวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว ลดลง เนื่องจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวตระหนักถึงการแข่งขันด้านการส่งออกกับไทย ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (Ministry of Agriculture and Rural Development : MARD) วางแผนที่จะเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวไปปลูกพืชชนิดอื่นจำนวน 260,000 เฮคตาร์ (หรือประมาณ 1.63 ล้านไร่) ภายในปี 2558 และจำนวน 510,000 เฮคตาร์ (หรือประมาณ 3.19 ล้านไร่) ภายในปี 2563 เพื่อกระตุ้นการส่งออกพืชชนิดอื่น อาทิ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง งา และพืชผัก

ในปี 2555/56 สต็อกปลายปีของเวียดนามลดลงเหลือ 624,000 ตัน หรือลดลงร้อยละ 28 เนื่องจากปริมาณการบริโภคเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า สต็อกข้าวของเวียดนามอาจลดลงอีก หากเวียดนามส่งออกเพิ่มมากขึ้นในปี 2556/57

ที่มา Oryza.com

เมียนมาร์

รัฐบาลเมียนมาร์อยู่ระหว่างการพิจารณาให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาข้าวตกต่ำ และจากการที่จีนสั่งห้ามนำเข้าข้าวผ่านการค้าชายแดนทางตอนเหนือของประเทศ จึงส่งผลให้ปริมาณความต้องการนำเข้าข้าวจากเมียนมาร์ลดลง โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จีนระบุว่าการค้าในลักษณะดังกล่าวเป็นการค้าที่ผิดกฎหมาย โดยล่าสุดสื่อท้องถิ่นรายงานว่า กระทรวงสหกรณ์ (Ministry of Cooperatives) ตัดสินใจสนับสนุนสินเชื่อจำนวน 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 16,292 บาท) ให้แก่เกษตรกร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการทำนา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ระบุว่า กระทรวงได้จัดหาแหล่งสินเชื่อจำนวน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 9,775 บาท) จากจีน เนื่องจากแหล่งเงินทุนของกระทรวงมีจำกัด และไม่เพียงพอต่อจำนวนเกษตรกรทั้งหมด ซึ่งจีนได้ตอบตกลงที่จะสนับสนุนเงินกู้จำนวนดังกล่าวแล้ว และตอนนี้อยู่ในขั้นตอนรอการพิจารณาของรัฐสภาเมียนมาร์ ซึ่งรัฐมนตรีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงกำลังเชิญชวนให้เกษตรกร จำนวน 8 ล้านครัวเรือนใช้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำนี้

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรกำหนดจ่ายสินเชื่อให้เกษตรกรรายละ 1 ล้านล้านจ๊าด (หรือประมาณ 962 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 31,346 บาท) ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ในช่วงฤดูมรสุม 2557 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันราคาข้าวเปลือกตันละ 112,000–120,000 จ๊าด (หรือประมาณตันละ 108-116 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณตันละ 3,519-3,779 บาท) ลดลดจากตันละ 160,000 จ๊าด (หรือประมาณตันละ 155 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณตันละ 5,051 บาท) หรือลดลงร้อยละ 25-30 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถชำระสินเชื่อคืนได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร สมาคมเกษตรกรแห่งเมียนมาร์ (Myanmar Farmers’ Associations) วางแผนที่จะขายข้าวเปลือกฤดูมรสุมในรูปของการประมูล นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีกำหนดที่จะซื้อข้าวเปลือกในราคาตันละ 140,000 จ๊าด (หรือประมาณตันละ 136 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณตันละ 4,432 บาท)

สื่อท้องถิ่น รายงานว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557/58 (เมษายน 2557 – กันยายน 2557) เมียนมาร์ส่งออกข้าว 630,071 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 300,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่จีนสั่งห้ามนำเข้าผ่านการค้าชายแดน เมียนมาร์ส่งออกข้าวได้เพียงเดือนละ 50,000 ตัน จากเดิมที่เคยส่งออกได้เดือนละประมาณ 100,000 ตัน

ในปี 2555/56 เมียนมาร์ส่งออกข้าว 1.33 ล้านตัน แต่ลดลงเหลือเพียง 1 ล้านตัน ในปี 2556/57 ทำให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเพิ่มปริมาณการส่งออกข้าว โดยกำหนดเป็นสินค้าส่งออกสำคัญในยุทธศาสตร์ส่งออกแห่งชาติ ปี 2557-2562 (National Export Strategy) และพยายามที่จะขยายตลาดส่งออกข้าว

ทั้งนี้ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานว่า ราคาขายส่งข้าวในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เฉลี่ยตันละ 350,880 จ๊าด (หรือประมาณตันละ 350 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณตันละ 11,405 บาท) ลดลงจากตันละ 388,450 จ๊าด (หรือประมาณตันละ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณตันละ 13,033 บาท) เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ที่มา Oryza.com

กัมพูชา

สื่อท้องถิ่น รายงานว่า สหพันธ์ข้าวแห่งกัมพูชา (Cambodian Rice Federation : CRF) อยู่ระหว่างดำเนินการวางแผนจัดหาแหล่งเงินสนับสนุนจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China’s Export-Import Bank) เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมข้าวในประเทศ อาทิ โกดังและระบบจัดการหลังการเก็บเกี่ยว ประธานสหพันธ์ข้าวแห่งกัมพูชา ระบุว่า ขณะนี้คณะทำงานได้จัดเตรียมข้อเสนอที่เน้นถึงสถานการณ์ปัจจุบันของภาคการผลิตข้าวในกัมพูชา ระบบสาธารณูปโภค และปัญหา เพื่อนำเสนอต่อธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าฯ โดยหากได้รับการพิจารณาอนุมัติเงินแล้ว กัมพูชาจะลงนามในสัญญากู้เงินในเดือนธันวาคมนี้

ล่าสุด กัมพูชาตั้งเป้าส่งออกให้ได้ 1 ล้านตัน ภายในปี 2558 และเพื่อที่จะบรรลุตามเป้าหมายดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตข้าวของกัมพูชาจึงให้ความสำคัญต่อการยกระดับศักยภาพการส่งออกข้าวสาร โดยคณะทำงานกำลังวิเคราะห์ถึงยอดงบประมาณที่จำเป็นต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวในประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ ประธานสหพันธ์ฯ ได้ออกมาระบุว่า อาจจะต้องใช้งบประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 16,292.3 ล้านบาท) เพื่อปรับปรุงศักยภาพของระบบสาธารณูปโภค อาทิ โกดัง และไซโล

ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา กัมพูชาได้จัดตั้งธนาคารข้าวเปลือก โดยมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมข้าวในท้องถิ่น โดยการซื้อ จัดเก็บ และอบข้าว รวมถึงการสนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกร โดยใช้ข้าวเปลือกเป็นหลักประกัน

สำนักงานบริหารพิธีการส่งออกข้าว (Secretariat One Window Service : SOWS-REF) ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงการค้า (Ministry of Trade) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมกราคม – กันยายนที่ผ่านมา กัมพูชาส่งออกข้าว 269,370 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 266,123 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ในปี 2557 กัมพูชาส่งออกข้าว 1 ล้านตัน ซึ่งรวมทั้งการส่งออกข้าวอย่างถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายไปยังเวียดนาม

ที่มา Oryza.com

--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 10 - 16 พ.ย. 2557--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ