นายชวพฤฒ อินทรเทศ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 2 พิษณุโลก (สศก.2) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2558 คณะอนุกรรมการบูรณาการแผนปฏิบัติการพัฒนาด้านการเกษตรระดับจังหวัดพิษณุโลก ได้มีมติเห็นชอบคัดเลือก “พื้นที่อ่างเก็บน้ำบ้านหินลาด” เป็นพื้นที่ดำเนินงานโครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรแห่งใหม่ ซึ่งได้ดำเนินการจัดทำแผนบูรณาการพัฒนาการเกษตรเรียบร้อยแล้ว และเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กลุ่มวิจัยและประเมินผล สศก.2 ได้ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลภาวะเศรษฐกิจสังคมครัวเรือนและแรงงานเกษตร ช่วงก่อนเข้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำบ้านหินลาด หมู่ 2 ตำบลหินลาด อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งได้รับคัดเลือกเป็นพื้นที่ดำเนินงานโครงการแห่งใหม่บนเนื้อที่ 1,200 ไร่ มีเกษตรกรทำกินรวม 83 ราย ดำเนินการในพื้นที่เขตเหมาะสมสำหรับการปลูกพืช เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การผลิตและการเลี้ยงสัตว์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศ และมีระบบน้ำเพื่อการเกษตรค่อนข้างสมบูรณ์ หมายถึงมีแหล่งน้ำต้นทุนและส่งน้ำตามแนวคลองธรรมชาติ หรือมีแหล่งน้ำต้นทุนและระบบส่งน้ำสายใหญ่ ดำเนินการในระยะปานกลาง 1-5 ปี โดยเกษตรกรตอบรับและพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่
สำหรับโครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจร มีวัตถุประสงค์ เพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการพัฒนาการเกษตรในระดับพื้นที่ให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและศักยภาพของพื้นที่ในลักษณะบูรณาการ สามารถใช้น้ำเพื่อการเกษตรได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ โดยการพัฒนาแหล่งน้ำให้เต็มศักยภาพและใช้พื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาแหล่งน้ำ เป็นศูนย์กลางการบูรณาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต ด้านการเพิ่มมูลค่า ด้านการตลาด และด้านการบริหารจัดการ รวมถึงการพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในระดับจังหวัด ซึ่งจะดำเนินการในพื้นที่ใหม่ จังหวัดละไม่น้อยกว่า 1 แห่ง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพื้นที่เดิม ในปีงบประมาณ 2554 – 2557 ก็ให้สนับสนุนกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นไปตามแผนปฏิบัติการพัฒนาการเกษตรระดับจังหวัด เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2554 - 2555 จังหวัดพิษณุโลก ได้รับรางวัลที่ 3 จากการประกวดโครงการดังกล่าวในระดับประเทศ ทั้งสองปี และปีงบประมาณ 2556 - 2557 ได้รับรางวัลที่ 1 โดยเป็นการดำเนินการในระยะสั้น 1 – 3 ปี จากการประกวดในระดับเขต จึงถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง และนับเป็นโครงการสำคัญที่ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะต้องสนับสนุนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป นายชวพฤฒ กล่าวทิ้งท้าย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--