นายคนิต ลิขิตวิทยาวุฒิ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินการของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.)เปิดเผยถึงผลการติดตามการดำเนินงานตามมาตรการของ กนป.พบว่า โรงงานสกัดได้ดำเนินการรับซื้อเป็นไปตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (สกกร.)โดยมีการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันทะลายและร่วงราคาเดียวกันในราคา4.20บาท/กก. ณ 17%ซึ่งในขณะนี้ราคาผลปาล์มมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยในเดือนมิถุนายนอยู่ที่กิโลกรัมละ 4.50 – 5.25 บาท เพิ่มจากพฤษภาคมที่เฉลี่ยกิโลกรัมละ 4.31 บาท เนื่องจากเป็นผลมากจากมาตรการรับซื้อผลปาล์มตามคุณภาพอย่างจริงจัง ประกอบกับปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดลดลงจากเดินที่ผ่านมา ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 27.50 – 28.00 บาท ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดมาเลเซีย 2,270 ริงกิต/ตัน หรือกิโลกรัมละ 20.81 บาท
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามยังมีลานเทรับซื้อแยกผลปาล์มร่วงในราคาที่สูงกว่าผลปาล์มทะลาย และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเกรด B รับซื้อผลปาล์มร่วงอย่างเดียว โดยลานเทรับซื้อผลปาล์มทะลาย ณ ลานเท กิโลกรัมละ 3.10-4.20 บาท และผลปาล์มร่วง กิโลกรัมละ 4.00-5.00บาท ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งนี้ กรมการค้าภายใน ได้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหารับซื้อผลปาล์มกับโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเกรด B และลานเทในพื้นที่แล้ว นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม จะส่งเสริมและสนับสนุนในการปรับปรุง/ปรับเปลี่ยนโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันเกรด B ให้เพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดน้ำมันให้ได้คุณภาพมากขึ้นต่อไป
สำหรับการนำเข้าน้ำมันปาล์มบริสุทธ์มาจำหน่ายในพื้นที่ภาคใต้พบว่ามีผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มบรรจุขวดจากต่างประเทศมาจำหน่ายในตลาดหลายจังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา สตูล กระบี่ ตรัง และ พังงา ในราคาขายปลีกบรรจุถุงหรือขวดลิตรละ 30-36บาท ขณะที่ราคาน้ำมันพืชปาล์มที่ผลิตในประเทศขายปลีกถุงหรือขวดลิตรละ 40-42บาท ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วผลิตภัณฑ์บรรจุปาล์มน้ำมันไม่มีการอนุญาตให้นำเข้า ในเรื่องนี้ กนป.ได้สั่งการให้กรมศุลกากร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้มงวดและปราบปรามการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการรายงานการนำเข้าน้ำมันปาล์มอื่นๆ ให้ กนป.ทราบทุก 15 วัน ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประสานกับกรมศุลกากรให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยกรมศุลกากร ได้ปราบปรามและจับกุมการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม ที่ ด่านตรวจทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม จำนวน 1,430 กก.
รองเลขาธิการ กล่าวต่อไปว่า ในการตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือทั้งระบบ เพื่อการบริหารจัดการด้านการตลาดและรักษาเสถียรภาพของราคาปาล์มน้ำมัน ขณะนี้คณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือทั้งระบบระดับจังหวัด โดยจะดำเนินการเป็นประจำทุกเดือนตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 เป็นต้นไป ซึ่งกำหนดตรวจสอบครั้งแรกในวันที่ 8-10 มิถุนายน 2558
นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร และกระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์มาตรการของ กนป.ในพื้นที่แก่หน่วยงานของรัฐ สถาบันเกษตรกร และเกษตรกรทราบ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินการของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้จัดทำแผนปฏิบัติงานการประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมปาล์มทั้งหมดรับทราบทั่วกันภายในเดือนนี้ และได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วให้ช่วยดำเนินการประชาสัมพันธ์เรื่องมาตรการการรับซื้อปาล์มน้ำมันและการรักษาคุณภาพรวมทั้งการเก็บเกี่ยวผลปาล์มสุกที่ให้เปอร์เซ็นต์ไม่ต่ำกว่า 17%ไปยังเกษตรกร โดยขอความอนุเคราะห์จังหวัดที่มีผลผลิตปาล์มประชาสัมพันธ์ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น หอกระจายข่าวและผู้นำชุมชน และจะจัดสัมมนาเพื่อชี้แจงมาตรการแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ สุราษฎร์ธานี และชลบุรี โดยจะเชิญเกษตรกร สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้แทนสภาเกษตรกร ผู้แทนสหกรณ์ ผู้ประกอบการลานเท โรงงานสกัด โรงงานกลั่น โรงงานไบโอดีเซลและหน่วยราชการเกี่ยวข้องในพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วม โดยจะมีการสัมมนาในช่วงวันที่ 23 - 27 มิถุนายน 2558 รวมทั้งให้หน่วยงานในระดับพื้นที่ติดตามและประเมินผลผลิตปาล์มน้ำมันที่ออกในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดเพื่อนำข้อมูลประกอบในการบริหารปาล์มน้ำมันให้มีเสถียรภาพต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--