สศท.1 แจงประมาณการไม้ผลภาคเหนือ ระบุ ปีนี้ผลผลิตลิ้นจี่ลด ส่วนลำไยเพิ่มจากปีก่อน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 20, 2016 13:40 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 เผยผลการประมาณการผลผลิตลำไย และ ลิ้นจี่ ปี 59 ใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ระบุ ผลผลิตลำไยเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ในขณะที่ลิ้นจี่ผลผลิตลดลง โดยคณะทำงานสำรวจข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคเหนือจะติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง พร้อมเตรียมสรุปข้อมูลเอกภาพในเดือนพฤษภาคมนี้

นายอนุสรณ์ พรชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ (สศท.1) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลการประมาณการผลผลิตลำไย และ ลิ้นจี่ ปี 2559 ใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน และตาก ของคณะทำงานสำรวจข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคเหนือครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2559 ซึ่งเป็นความร่วมมือกับสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 (สสข.6) จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเกษตรจังหวัด 8 จังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด 8 จังหวัด และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้แทนเกษตรกรชาวสวนลำไยและลิ้นจี่ โดยข้อมูลไม้ผล แต่ละชนิด พบว่า

ลำไย มีเนื้อที่ให้ผลจำนวน 833,659 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ประมาณร้อยละ 0.07 ผลผลิตต่อไร่ ประมาณ 739 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 14 โดยแยกเป็นลำไยในฤดู 623 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 25 และลำไยนอกฤดูประมาณ 1,274 กิโลกรัมต่อไร่ ลดลงประมาณ ร้อยละ 6 เนื่องมาจากสภาพอากาศที่ร้อนและแล้ง ฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานานทำให้ลำไยได้รับน้ำฝนในปริมาณที่ไม่เพียงพอ

ด้านผลผลิตรวม คาดว่าจะมีประมาณ 616,132 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ประมาณร้อยละ 14 โดยเป็นลำไยในฤดูประมาณ 426,349 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ประมาณร้อยละ 25 และลำไยนอกฤดูประมาณ 189,783 ตัน ลดลงจากปี 2558 ประมาณร้อยละ 5 ซึ่งขณะนี้ลำไยอยู่ในช่วงออกดอกแล้วร้อยละ 90 และบางพื้นที่ติดผลอ่อนขนาดเท่ากับหัวไม้ขีดไฟประมาณร้อยละ 15 โดยผลผลิตจะออกมากในช่วงเดือนสิงหาคม

สำหรับลิ้นจี่ มีเนื้อที่ให้ผล 102,604 ไร่ ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 4 ให้ผลผลิตต่อไร่ประมาณ 394 กิโลกรัมต่อไร่ ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 10 ผลผลิตรวมประมาณ 40,393 ตัน ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 13 โดยผลผลิตลิ้นจี่จะออกมากในช่วงเดือนพฤษภาคมประมาณร้อยละ 63 และต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมิถุนายนประมาณร้อยละ 29 โดย ขณะนี้อยู่ในช่วงติดผลอ่อนแล้วประมาณร้อยละ15 ทั้งพันธุ์ฮงฮวยและจักรพรรดิ

อย่างไรก็ตาม คณะทำงานสำรวจไม้ผล ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากปีนี้สภาพอากาศแล้งและขาดน้ำอาจส่งผลกระทบให้ลำไยที่ติดผลแล้วร่วง รวมทั้งต้องเฝ้าระวังในเรื่องของพายุฤดูร้อนซึ่งอาจจะส่งผลให้ลำไยที่กำลังติดผลได้รับความเสียหาย โดยการบริหารจัดการลำไยที่ติดผล ควรเน้นในเรื่องของลำไยคุณภาพ ส่วนลิ้นจี่ พบว่า ประสบกับปัญหาในเรื่องของความชื้นในอากาศ สภาพหมอกไม่หนาแน่นเท่าที่ควร รวมทั้งช่วงปลายเดือนมกราคมเกิดฝนตกอย่างต่อเนื่อง (ถึงแม้จะมีปริมาณไม่มาก) ส่งผลให้ช่อลิ้นจี่บางส่วนเปลี่ยนเป็นแทงช่อใบแทนช่อดอก และในบางพื้นที่ เช่น จังหวัดพะเยา น่าน พบว่าเกษตรกรประสบกับปัญหาเรื่องของการขาดน้ำ ส่งผลให้ผลผลิตลิ้นจี่ในภาพรวมลดลงดังกล่าว ทั้งนี้ คณะทำงานสำรวจไม้ผล จะมีการประชุมและสรุปเป็นข้อมูลเอกภาพไม้ผลเศรษฐกิจภาคเหนืออีกครั้งในเดือนพฤษภาคมนี้ นายอนุสรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

**********************************

ข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์

ข้อมูล : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ