ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร: ข้าว

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 11, 2016 17:14 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ

การตลาด
มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ปีการผลิต 2558/59
โครงการตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2558/59
  • มติที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2558 เห็นชอบในหลักการโครงการตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2558/59 เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับธนาคารเพื่อเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ส่วนรายละเอียดการดำเนินโครงการและงบประมาณ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ให้มีกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการ จำนวน 1,860.57 ล้านบาท โดยให้ ธ.ก.ส. ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 และปีต่อๆ ไป ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน จำนวน 3 โครงการ ดังนี้

(1) โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2558/59 วงเงิน 975.57 ล้านบาท

(2) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2558/59 วงเงินงบประมาณ 236.67 ล้านบาท (ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการจาก MLR เป็น MLR-1 รัฐบาลชดเชยอัตราดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 2 โดยปัจจุบัน MLR เท่ากับร้อยละ 5)

(3) โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2558/59 วงเงินงบประมาณ 648.33 ล้านบาท (ปรับลดระยะเวลาให้สอดคล้องกับระยะเวลาดำเนินโครงการไม่เกิน 10 เดือน)

มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ปีการผลิต 2559/60

— มติที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ปีการผลิต 2559/60 ด้านการผลิต จำนวน 3 โครงการ ดังนี้

มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ปีการผลิต 2559/60 ด้านการผลิต

(1) โครงการส่งเสริมสนับสนุนการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิคุณภาพดี ปี 2559/60 (กข.)

(2) โครงการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชที่หลากหลาย ฤดูนาปรัง ปี 2560 (กสก.)

(3) โครงการสนับสนุนสินเชื่อให้กลุ่มชาวนาผู้ผลิตข้าวแบบแปลงใหญ่ ปี 2559/60 (ธ.ก.ส.)

— มติที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559 เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ปีการผลิต 2559/60 ด้านการตลาด จำนวน 4 โครงการ ดังนี้

มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ปีการผลิต 2559/60 ด้านการตลาด

(1) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร (ธ.ก.ส.)

(2) โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก (ธ.ก.ส.)

(3) โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ธ.ก.ส.)

(4) โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก (พณ.)

ภาวการณ์ซื้อขายข้าวสัปดาห์นี้ ราคาข้าวเปลือกเจ้าที่เกษตรกรขายได้ ค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับสัปดาห์ ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว คงเหลือผลผลิตคุณภาพดีไม่มาก และผู้ประกอบการชะลอการรับซื้อเพื่อรอผลผลิตฤดูกาลใหม่ออกสู่ตลาด

ราคา
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ

ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 11,184 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 11,004 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.64

ราคาข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 8,599 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 8,465 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.59

ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ

ราคาข้าวหอมมะลิไทย ชั้น 1 (ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 25,050 บาท

ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน

ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 13,950 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน

ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี.

ราคาข้าวหอมมะลิไทย ชั้น 1 (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 822 ดอลลาร์สหรัฐฯ (28,677 บาท/ตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน แต่ลดลงในรูปเงินบาทตันละ 119 บาท

ราคาข้าวปทุมธานี ส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 648 ดอลลาร์สหรัฐฯ (22,607 บาท/ตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน แต่ลดลงในรูปเงินบาทตันละ 93 บาท

ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 441 ดอลลาร์สหรัฐฯ (15,449 บาท/ตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน แต่ลดลงในรูปเงินบาทตันละ 64 บาท

ราคาข้าวสารเจ้า 25% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 423 ดอลลาร์สหรัฐฯ (14,757 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 422 ดอลลาร์สหรัฐฯ (14,783 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.24

ราคาข้าวนึ่ง 5% ส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 493 ดอลลาร์สหรัฐฯ (17,199 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 479 ดอลลาร์สหรัฐฯ (16,780 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.92

หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 34.8870 บาท

สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ

ไทย

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายประเทศเข้มงวดนำเข้าสินค้าเกษตรจากทั่วโลกมากขึ้น โดยล่าสุด แคนาดา สหรัฐฯ และจีน ได้ออกประกาศกำหนดค่าปริมาณสูงสุดของสารพิษตกค้าของสารกำจัดศัตรูพืชในสินค้าเกษตร ซึ่งสูงกว่าค่าปริมาณสูงสุดของสารพิษตกค้างในระดับสากล ที่กำหนดโดยคณะกรรมาธิการโครงการมาตรฐานอาหาร (CODEX) ส่งผลให้ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรจากไทยมีภาระสูงขึ้นในการปรับปรุงกระบวนการผลิต

“การกำหนดค่าสารพิษตกค้าสูงกว่าที่ CODEX กำหนด มกอช. กำลังดูว่าบังคับใช้กับสินค้าเกษตรในประเทศด้วยหรือไม่ ซึ่งไทยอาจฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลก เพราะถือเป็นมาตรการกีดกัน”

ทั้งนี้ การเดินทางไปเปิดตลาดการค้าข้าวและสินค้าอื่นๆ ของไทยที่ประเทศโมซัมบิกและเคนยาในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ คาดว่า น่าจะขายข้าวขาว 15% ให้โมซัมบิกได้ประมาณ 300,000-400,000 ตัน แต่เงื่อนไขการขายและ การชำระเงินจะเป็นอย่างไร ต้องเจรจากันอย่างละเอียด

สำหรับประเทศจีน สำนักงานควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรคแห่งประเทศจีน (AQSIQ) ได้ออกมาตรการกำหนดให้สินค้าเกษตรและอาหารที่นำเข้าต้องได้รับใบรับรองจากหน่วยงานตรวจรับรองในประเทศต้นทาง และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงไร่นา โดย AQSIQ มีแผนตรวจประเมินผู้ผลิตและแปรรูปข้าวของไทยล็อตแรก จำนวน 65 ราย อยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา สระบุรี ชลบุรี พัทลุง สมุทรปราการ สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท อ่างทอง อุทัยธานี นครสวรรค์ นครราชสีมา ขอนแก่น ร้อยเอ็ด หนองบัวลำภู สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และเชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่มีการผลิตข้าวคุณภาพดี มีกำลังการผลิตสูง และเคยมีการส่งออกสินค้าข้าวไปจีน

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า คณะผู้เชี่ยวชาญของ AQSIQ จะมีการตรวจประเมินด้านสุขอนามัยพืช การเก็บรักษา และควบคุมคุณภาพ ความปลอดภัยของสินค้าข้าว รวมถึงการควบคุมศัตรูพืชในโรงเก็บ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและมาตรฐานสำหรับสินค้าข้าวที่ส่งออกไปจีน รวมถึงพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกข้าวไทยไปจีน ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2559 ซึ่งไม่น่ามีปัญหาเนื่องจากผู้ผลิตและผู้แปรรูปข้าวของไทยมีระบบบริหารจัดการที่ดี มีศักยภาพการผลิตและส่งออกสูง และเป็นที่ยอมรับของประเทศผู้นำเข้าหลายประเทศ

ปี 2558 ที่ผ่านมา ไทยมีการส่งออกข้าวไปจีนรวม 985,368 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2557 คิดเป็นร้อยละ 30.4 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2559 ไทยส่งออกข้าวไปยังจีนแล้วกว่า 463,922.94 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 15,003.11 ล้านบาท ที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ

เมียนมาร์

รองประธานสมาพันธ์ข้าวเมียนมาร์กล่าวว่า ราคาข้าวเปลือกในฤดูมรสุมนี้คาดว่าจะมีราคม 550,000-600,000 จ๊าด (16,467-17,946 บาท) ต่อ 100 ถัง หรือลดลงร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับราคาข้าวขาวยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีราคา 900,000-1,400,000 จ๊าด (26,946-41,916 บาท) และกล่าวเสริมว่า เกษตรกรกำลังเตรียมปลูกข้าวนาปีในหลายพื้นที่ แต่การส่งออกข้าวลดลงครึ่งหนึ่ง ทุกฝ่ายจึงจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื่องจากเมียนมาร์พึ่งพาการส่งออกข้าวเปลือกเป็นหลัก ซึ่งราคาข้าวขาวที่ผันผวนจะทำให้เกษตรกรลดการผลิตลง ดังนั้น เกษตรกรจำเป็นต้องเลือกพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตสูงสำหรับฤดูฝน รวมทั้งใช้วิธีการปลูกที่ถูกต้องและใช้เครื่องจักรมากขึ้น ที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ฟิลิปปินส์

รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ตั้งเป้าให้ฟิลิปปินส์ผลิตข้าวพอกินภายใน 2 ปีข้างหน้า ด้วยการสนับสนุนให้ชาวนาปลูกข้าว 4 ครั้งต่อปี โดยให้ผู้อำนวยการเกษตรของกรมการเกษตรในแต่ละภูมิภาคของประเทศเป็นผู้ดูแล และถ้าใครทำไม่สำเร็จก็จะโดนปลดออกจากตำแหน่ง ส่วนที่เหลือจะมีการสับเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อดูผลงานในงานใหม่ที่ได้รับมอบหมาย

หนังสือพิมพ์ฟิลิปปินส์เดลี่เอ็นไควเรอร์กล่าวว่า เป้าหมายปลูกข้าวให้พอกินภายใน 2 ปี เป็นเป้าหมายใหม่ ซึ่งคาดว่าเป็นสัญญาณมาจากระดับสูง เนื่องจากช่วงที่รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรเข้ารับตำแหนงใหม่เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนได้กล่าวกับผู้บริหารกรมการเกษตรว่า นโยบายของรัฐบาลตูเตอร์เต คือการปลูกข้าวให้พอกิน โดยไม่กำหนดเป้าหมาย และยังกล่าวว่าน่าจะทำให้สำเร็จภายใน 6 ปี

รัฐมนตรีเกษตรคนใหม่ของฟิลิปปินส์ระบุว่า จะให้การสนับสนุนโครงการปลูกข้าวอย่างเต็มที่ ทั้งระบบชลประธาน เมล็ดพันธุ์ที่ดี ปุ๋ย และสิ่งต่างๆ ที่ใช้ในการเพาะปลูก และจะต้องเดินหน้าต่อจากรัฐมนตรีเกษตรคนก่อน

โดยฟิลิปปินส์เดลี่เอ็นไควเรอร์ระบุว่า รัฐมนตรีเกษตรของรัฐบาลนายอาคิโนได้ทำสำเร็จแล้วระดับหนึ่ง ถึงแม้จะไม่สามารถผลิตข้าวให้พอกินภายในปี 2556 ตามที่ประกาศไว้ แต่ทำให้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 81 ของความต้องการบริโภครวมช่วงที่รับตำแหน่งเป็นร้อยละ 97 ในปัจจุบันซึ่งนับว่าใกล้สู่จุดพึ่งพาตัวเองได้แล้ว ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 4 - 10 ก.ค. 2559--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ