เปิดข้อมูลไม้ผลตะวันออก 4 ชนิด รอบ 2 แจงผลผลิต รวมกว่า 7.7 แสนตัน ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 บูรณาการจัดทำข้อมูลปริมาณการผลิตไม้ผลเอกภาพรอบที่ 2 เผย ปี 60 ไม้ผล 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง ให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นทุกชนิด ผลผลิตรวม 771,112 ตัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 37 ระบุ ปลายกุมภาพันธ์นี้พร้อมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อีกครั้ง เพื่อใช้ประกอบการวางแผนบริหารจัดการผลไม้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
นายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการบูรณาการจัดทำข้อมูลปริมาณการผลิตไม้ผลเอกภาพรอบที่ 2 ปี 2560 โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 จังหวัดชลบุรี (สศท.6) ร่วมมือกับสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 (สสก.3) จังหวัดระยอง และสำนักงานเกษตรจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ซึ่งคณะทำงานสำรวจข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคตะวันออกได้พยากรณ์ผลผลิตไม้ผลภาคตะวันออก ครั้งที่ 2 ของสินค้า 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ระยอง และตราด เพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการวางแผนบริหารจัดการผลไม้ตั้งแต่ต้นฤดู
สำหรับผลพยากรณ์ในปี 2560 ครั้งที่ 2 (ข้อมูล ณ 1 กุมภาพันธ์ 2560) พบว่า เนื้อที่ให้ผลของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 669,717 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีจำนวน 664,874 ไร่ (เพิ่มขึ้น 4,843 ไร่ หรือ ร้อยละ 0.73) โดยทุเรียน เพิ่มขึ้นประมาณ ร้อยละ 1.74 เงาะ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.60 และมังคุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.04 ส่วนลองกอง ลดลงร้อยละ 0.43
ผลผลิตต่อไร่ทั้ง 4 ชนิด คือ ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาในปีที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ดีจูงใจให้เกษตรกรมีการดูแลรักษาดี ประกอบกับในปีที่ผ่านมาไม้ผลบางต้นไม่ติดผลหรือให้ผลผลิตน้อย ทำให้มีเวลาในการพักต้นสะสมอาหารต้นสมบูรณ์ขึ้น อีกทั้งปีนี้สภาพอากาศเอื้ออำนวยมากกว่าปีที่ผ่านมา
ผลผลิตรวมทั้ง 4 สินค้า คาดว่าจะมีผลผลิตรวมประมาณ 771,112 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีจำนวน 562,164 ตัน (เพิ่มขึ้น 208,948 ตัน หรือ ร้อยละ 37.17) โดยผลผลิตจะออกมากช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ต่อเนื่องถึงกลางเดือนมิถุนายน ซึ่งคาดการณ์ว่าผลผลิตรวมของทั้ง 4 สินค้าจะเพิ่มขึ้นทุกชนิด โดยเงาะ จะเพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 52.62 เนื่องจากปีที่แล้วสภาพความแห้งแล้งขาดน้ำเงาะติดผลน้อยร่วงหล่นจำนวนมาก แต่ด้วยสภาพอากาศปีนี้มีความเย็นเหมาะสม ส่งผลให้ออกดอกได้มากขึ้น รองลงมาได้แก่ ทุเรียน เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.96 มังคุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.27 และลองกอง เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.17
ด้านนายสุชัย กิตตินันทะศิลป์ ผู้อำนวยการ สศท.6 กล่าวเสริมถึงสถานการณ์ในขณะนี้ว่า ทุเรียน ออกดอกแล้วประมาณร้อยละ 95 ผลผลิตที่ติดผลในช่วงแรกเป็นทุเรียนพันธุ์เบาและทุเรียนที่บังคับสารกระตุ้นการออกดอก โดยจะเป็นพันธุ์กระดุมและหมอนทองบางส่วน เงาะ ออกดอกแล้วประมาณร้อยละ 80 มังคุด ออกดอกแล้วประมาณร้อยละ 30 ส่วนลองกองยังออกดอกน้อยประมาณร้อยละ 25 ซึ่งลองกองการออกดอกสามารถกระจายออกดอกได้ตลอดทั้งปี ถ้าหากสภาพต้นที่สลดขาดแคลนน้ำ เนื่องจากลองกองส่วนใหญ่จะปลูกแซมพืชอื่น ซึ่งพืชอื่นจะอยู่ในระยะให้น้ำทำให้ต้นลองกองยังไม่สลดการออกดอกจึงยังน้อยอยู่
อย่างไรก็ตาม หากสภาพดิน ฟ้า อากาศแปรปรวนอาจทำให้ผลผลิตไม้ผลเปลี่ยนแปลงลดลงได้อีก เนื่องจากปีนี้สภาพอากาศในช่วงแรกของภาคตะวันออกที่มีฝนตกสลับกับอากาศหนาวเย็นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม ส่งผลต่อการติดดอกออกผลของผลไม้โดยเฉพาะมังคุดที่ออกดอกล่าช้า โดยดอกมังคุดจะเห็นผลได้ชัดเจนอีกครั้งหลังกลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ซึ่งช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ สศท.6 จะลงพื้นที่เพื่อสำรวจและติดตามสถานการณ์อีกครั้ง ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลไม้ผลภาคตะวันออกเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 จังหวัดชลบุรี โทร. 038 352 435 หรืออีเมล zone6@oae.go.th
**********************************
ข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์
ข้อมูล : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 จังหวัดชลบุรี
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--