1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
1.1 การตลาด
มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2560/61
(1) ด้านการผลิต มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2560 วันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 และวันที่ 12ธันวาคม 2560 เห็นชอบโครงการฯ ได้แก่ 1) โครงการส่งเสริมการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิคุณภาพดี 2) โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบนาแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่ หลักเกณฑ์ใหม่) 3) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์4) โครงการส่งเสริมการปลูกพืชหลากหลาย ฤดูนาปรัง ปี 2561 5) โครงการปลูกพืชปุ๋ยสด ฤดูนาปรัง ปี 25616) โครงการขยายการส่งเสริมการปลูกพืชหลากหลาย ฤดูนาปรัง ปี 2561 7) โครงการขยายการปลูกพืชปุ๋ยสด ฤดูนาปรัง ปี 2561และ 8) โครงการส่งเสริมการปลูกพืชอาหารสัตว์ ฤดูนาปรัง ปี 2561
(2) ด้านการตลาด มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 และเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560 เห็นชอบโครงการฯ ได้แก่ 1) โครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร 2) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร 3) โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีและการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าวนาปี และ 4) โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก
(3) ด้านการเงิน มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560 เห็นชอบ โครงการประกันภัยข้าวนาปีปีการผลิต 2560
ภาวการณ์ซื้อขายข้าวสัปดาห์นี้ ราคาค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นวันหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่
1.2 ราคา
ข้าวเปลือกเจ้านาปีหอมมะลิ สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 12,310 บาท
ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 8,029
ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 1 (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 30,950 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวขาว 5% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 11,830 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 11,650 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.54
ข้าวหอมมะลิไทย 100% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 1,043 ดอลลาร์สหรัฐฯ (33,309 บาท/ตัน)
ข้าวขาว 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 416 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,285 บาท/ตัน)
ข้าวขาว 25% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,774 บาท/ตัน)
ข้าวนึ่ง 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 429 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,700 บาท/ตัน)
หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 31.9357 บาท
2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ
ภาวะราคาข้าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ในระดับทรงตัวท่ามกลางคำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่เบาบางลง เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งผู้ซื้อจะชะลอการซื้อข้าวในช่วงนี้ ประกอบกับอุปทานข้าวในตลาดมีน้อยลง โดยราคาข้าวขาว 5% อยู่ที่ประมาณ 390-395 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน เท่ากับเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ผู้ค้าข้าวบางส่วน ระบุว่า การซื้อขายข้าวค่อนข้างเบาบาง เพราะความต้องการข้าวจากตลาดหลัก เช่น จีน และประเทศในแถบแอฟริกาลดลง โดยผู้ซื้อจากจีนซื้อข้าวจากเวียดนามเพื่อให้ครบตามโควตานำเข้าที่ได้ในปีนี้แล้ว
สำนักงานศุลกากร (the General Department of Vietnam Customs) รายงานว่าในปี 2560 ที่ผ่านมา เวียดนามส่งออกข้าวประมาณ 5.9 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.5 และร้อยละ 20.8 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยประเทศที่เวียดนามส่งออกข้าวมากที่สุดคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 40 ของการส่งออกข้าวทั้งหมดของเวียดนาม คือ ประเทศจีน ส่วนการส่งไปยัง ประเทศฟิลิปปินส์คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 9.3
สำหรับปี 2561 นี้ คาดว่า เวียดนามจะส่งออกข้าวได้ประมาณ 6.3 ล้านตัน โดยตลาดหลักยังคงเป็นประเทศในแถบเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์ เป็นต้น
ทางด้านกระทรวงเกษตร (the Ministry of Agriculture and Rural Development; MARD) รายงาน ว่าในปี2560 ที่ผ่านมา เวียดนามส่งออกข้าวได้ประมาณ 6 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 2.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.4 และร้อยละ 23.2 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559
นาย Huynh Minh Hue เลขาธิการสมาคมอาหาร (Secretary General of the Vietnam Food Association) ระบุว่าเมื่อปี่ที่ผ่านมา เวียดนามประสบกับภาวะสภาพอากาศแปรปรวนซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปทานข้าว ที่จะส่งออก ขณะที่เวียดนามมีแนวโน้มที่จะเพิ่มทั้งปริมาณและคุณภาพของสินค้าข้าวเพื่อกระตุ้นการบริโภคและเพิ่มมูลค่าการส่งออก
โดยในปี 2561 นี้ ประเทศจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามได้ลดภาษีนำเข้าข้าวเหนียว ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อเวียดนาม นอกจากนี้ภาคเอกชนได้มีการขยายตลาดส่งออกโดยการไปเจรจาและส่งเสริมการตลาดในหลายประเทศ เช่น ไอวอรี่โคสต์ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับข้าวเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม เวียดนามยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในตลาดโลกจากมาตรการทางการค้าของหลายประเทศ เช่น มาตรการด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยอาหาร เป็นต้น
ที่มา : สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากบังกลาเทศและค่าเงินรูปีที่แข็งค่าขึ้น โดยราคาข้าวนึ่ง 5% ราคาอยู่ที่ 421-424 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 418-421 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ค่าเงินรูปีได้แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 30 เดือน ส่งผลให้ราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นสวนทางกับรายได้ของผู้ส่งออกที่ลดลงจากค่าเงินที่แข็งค่าขึ้น
ที่มา : สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
นายมูฮัมมาดู บูฮาริ ประธานาธิบดีไนจีเรีย (President Muhammadu Buhari) ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ไนจีเรียจะยุติการนำเข้าข้าวตั้งแต่ปีนี้ ขณะที่รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการผลิตข้าวในประเทศ นายบูฮาริ กล่าวว่า จะยุติการนำเข้าข้าวในปีนี้ โดยข้าวที่ผลิตในประเทศที่มีความสดมากกว่าและมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า จะอยู่บนจานข้าวตั้งแต่นี้ไป เขากล่าวว่า มีความยินดีที่ภาคการเกษตรได้ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งเป็นแรงหนุนต่อความพยายามของรัฐบาลในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ
นายบูฮาริ กล่าวว่า รัฐบาลประสบความสำเร็จในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและภาคเหมืองแร่ นอกจากนี้ เขายังระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพได้ช่วยหนุนประสิทธิภาพในภาคการผลิต
ที่มา : สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 5 – 11 มกราคม 61 --