กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระดมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเลี้ยงกุ้ง ร่วมเสวนาเพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำ เผยเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นางยินดี แก้วประกอบ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 9 (สศข.9) จังหวัดสงขลา สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา รศ.ประจวบ หลำอุบล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้เกียรติเป็นประธานและร่วมเสวนา เรื่อง “ฝ่าวิกฤตการณ์ราคากุ้งตกต่ำด้วยความสมานฉันท์เพื่อการพัฒนาธุรกิจกุ้งไทยอย่างยั่งยืน” ณ โรงแรมกรีนเวิลด์ จังหวัดสงขลา โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ภาคเอกชนและภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
จากการเสวนาดังกล่าว รศ.ประจวบ กล่าวว่า กุ้งเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่ให้มูลค่าสูงกับประเทศไทย เมื่อเกิดปัญหาราคาตกต่ำแล้ว ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เกษตรกร จนถึงผู้ประกอบการส่งออก จะต้องหันหน้ามาร่วมแก้ไขปัญหาด้วยกัน เพื่อการอยู่รอดในภาวะวิกฤต และพัฒนาได้อย่างยั่งยืนในภาวะปกติ
สำหรับผลการเสวนาร่วมแสดงความคิดเห็น หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่าสาเหตุที่ทำให้ราคากุ้งไทยตกต่ำในปี 2550 มีมูลเหตุที่สำคัญประกอบด้วย ผู้ประกอบการมีการเลี้ยงกุ้งเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะใน 5 เดือนแรกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 ราคาขายในตลาดหลัก (ตลาดสหรัฐฯ) ลดลงร้อยละ 6 และการแข็งค่าของเงินบาท
ผู้เข้าร่วมเสวนาจึงได้เสนอแนวทางแก้ไขไว้ในแต่ละด้าน คือ ด้านการผลิต ผู้ประกอบการต้องตระหนักเรื่องการจดทะเบียนกับภาครัฐ เพื่อให้ทราบจำนวนผู้ประกอบการและปริมาณผลผลิต ซึ่งมีผลในการกำหนดนโยบายการใช้พลังงานทดแทน และการหลีกเลี่ยงการเลี้ยงเพื่อจับผลผลิตในช่วงเดือนตุลาคม — ธันวาคม เนื่องจากประเทศคู่ค้าไม่นำเข้า ตลอดถึงการเลี้ยงต้องได้มาตรฐาน ส่วนด้านการตลาด ผู้เลี้ยงจะต้องมีการรวมกลุ่ม เพื่อสร้างความเข้มแข็งและมีอำนาจต่อรองให้ตลาดเป็นของผู้ขาย รวมถึงเรื่องของการกระจายสินค้า และมีกลยุทธ์ในการส่งเสริมการขายที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น
นอกจากนี้ รศ.ประจวบ ได้ย้ำว่า ปัญหาเรื่องราคาสินค้าตกต่ำ เป็นปัญหาที่ประสบกันอยู่ในทุกรัฐบาล แต่การที่ราคากุ้งในปีนี้ตกต่ำ เป็นกรณีตัวอย่างที่ดี ที่มีผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนมาร่วมมือกันแก้ไขปัญหา และร่วมฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน เพื่อธุรกิจการเลี้ยงกุ้งทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำอย่างยั่งยืนต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
นางยินดี แก้วประกอบ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 9 (สศข.9) จังหวัดสงขลา สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา รศ.ประจวบ หลำอุบล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้เกียรติเป็นประธานและร่วมเสวนา เรื่อง “ฝ่าวิกฤตการณ์ราคากุ้งตกต่ำด้วยความสมานฉันท์เพื่อการพัฒนาธุรกิจกุ้งไทยอย่างยั่งยืน” ณ โรงแรมกรีนเวิลด์ จังหวัดสงขลา โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ภาคเอกชนและภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
จากการเสวนาดังกล่าว รศ.ประจวบ กล่าวว่า กุ้งเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่ให้มูลค่าสูงกับประเทศไทย เมื่อเกิดปัญหาราคาตกต่ำแล้ว ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เกษตรกร จนถึงผู้ประกอบการส่งออก จะต้องหันหน้ามาร่วมแก้ไขปัญหาด้วยกัน เพื่อการอยู่รอดในภาวะวิกฤต และพัฒนาได้อย่างยั่งยืนในภาวะปกติ
สำหรับผลการเสวนาร่วมแสดงความคิดเห็น หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่าสาเหตุที่ทำให้ราคากุ้งไทยตกต่ำในปี 2550 มีมูลเหตุที่สำคัญประกอบด้วย ผู้ประกอบการมีการเลี้ยงกุ้งเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะใน 5 เดือนแรกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 ราคาขายในตลาดหลัก (ตลาดสหรัฐฯ) ลดลงร้อยละ 6 และการแข็งค่าของเงินบาท
ผู้เข้าร่วมเสวนาจึงได้เสนอแนวทางแก้ไขไว้ในแต่ละด้าน คือ ด้านการผลิต ผู้ประกอบการต้องตระหนักเรื่องการจดทะเบียนกับภาครัฐ เพื่อให้ทราบจำนวนผู้ประกอบการและปริมาณผลผลิต ซึ่งมีผลในการกำหนดนโยบายการใช้พลังงานทดแทน และการหลีกเลี่ยงการเลี้ยงเพื่อจับผลผลิตในช่วงเดือนตุลาคม — ธันวาคม เนื่องจากประเทศคู่ค้าไม่นำเข้า ตลอดถึงการเลี้ยงต้องได้มาตรฐาน ส่วนด้านการตลาด ผู้เลี้ยงจะต้องมีการรวมกลุ่ม เพื่อสร้างความเข้มแข็งและมีอำนาจต่อรองให้ตลาดเป็นของผู้ขาย รวมถึงเรื่องของการกระจายสินค้า และมีกลยุทธ์ในการส่งเสริมการขายที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น
นอกจากนี้ รศ.ประจวบ ได้ย้ำว่า ปัญหาเรื่องราคาสินค้าตกต่ำ เป็นปัญหาที่ประสบกันอยู่ในทุกรัฐบาล แต่การที่ราคากุ้งในปีนี้ตกต่ำ เป็นกรณีตัวอย่างที่ดี ที่มีผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนมาร่วมมือกันแก้ไขปัญหา และร่วมฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน เพื่อธุรกิจการเลี้ยงกุ้งทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำอย่างยั่งยืนต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-