สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 6 ประมาณการข้อมูลอ้อยโรงงานปี50/51 ใน 6 จังหวัดภาคตะวันออก คาด มีผลผลิต 3,265,670 ตัน ลดลงร้อยละ 8.57 วอนเกษตรกรลดการเผาอ้อยส่งโรงงาน ลดการสูญเสียและจะทำให้ความหวานเฉลี่ยสูงขึ้น ส่งผลราคาอ้อยที่เกษตรกรได้รับขั้นสุดท้ายสูงตามไปด้วย
นางสุวคนธ์ ทรงแสงธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 6 (สศข.6) จังหวัดชลบุรี สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในเดือนธันวาคมของทุกปี พื้นที่ภาคตะวันออกจะเข้าสู่ฤดูการเก็บเกี่ยวอ้อยโรงงาน และจากมติของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายได้ประกาศราคาอ้อยเบื้องต้นปี 2550/51 ตันละ 600 บาท ที่ความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. และราคาขึ้น/ลง 36.00 บาทต่อซี.ซี.เอส ปีนี้ โรงงานน้ำตาลในภาคตะวันออกจะเปิดหีบ 4 โรง จากโรงงาน 5 โรง โดยมีกำหนดการเปิดหีบและจัดสรรปริมาณอ้อยเข้าหีบ ดังนี้
(1) บริษัท สหการน้ำตาลชลบุรี จำกัด เปิดหีบวันที่ 7 ธันวาคม 2550 ได้รับจัดสรร 769,100 ตัน
(2) บริษัท นิวกว้างซุ้นหลี จำกัด เปิดหีบวันที่ 10 ธันวาคม 2550 ได้รับจัดสรร 813,100 ตัน
(3) บริษัท น้ำตาลและอ้อยตะวันออก จำกัด เปิดหีบวันที่ 10 ธันวาคม 2550 ได้รับจัดสรร 1,907,500 ตัน
(4) บริษัท น้ำตาลระยอง จำกัด เปิดหีบวันที่ 10 ธันวาคม 2550 ได้รับจัดสรร 495,300 ตัน
ส่วนบริษัท น้ำตาลอุตสาหกรรมน้ำตาลชลบุรี จำกัด ปีนี้ได้ขอหยุดหีบเพื่อซ่อมเครื่องจักร
ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้ประมาณการข้อมูลอ้อยโรงงาน ปี 2550/51 ภาคตะวันออกมีพื้นที่ ปลูกอ้อย 6 จังหวัด คือ จังหวัดชลบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ระยอง และจันทบุรี ซึ่งคาดว่ามีพื้นที่ปลูกประมาณ 325,815 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 4.86 ของประเทศ ลดลงจาก ปี 2549/50 ประมาณ 13,849 ไร่ หรือร้อยละ 4.08 ด้านผลผลิตคาดว่าจะมีประมาณ 3,265,670 ตัน ลดลงประมาณร้อยละ 8.57 โดยเฉพาะจังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา ระยองและชลบุรี ที่เกิดฝนทิ้งช่วงนานหลายเดือน
สำหรับเขตประสานงานอ้อยและน้ำตาลทรายเขต 8 ศูนย์บริหารการผลิต สำนักงานอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดูแลโรงงานน้ำตาลในภาคตะวันออก ได้ให้ข้อมูลว่าในปีการผลิต 2549/50 ที่ผ่านมา ภาคตะวันออกมีปริมาณอ้อยเข้าหีบรวม 3,304,409 ตัน เป็นปริมาณอ้อยสด 1,142,381.58 ตัน หรือร้อยละ 34.57 และเป็นอ้อยไฟไหม้ (เผาก่อนตัด)รวมปริมาณ 2,162,108.42 ตัน หรือร้อยละ 65.43 ของปริมาณทั้งหมด ส่งผลให้เกิดการสูญเสียและความหวานเฉลี่ยลดลง โดยมีความหวานเฉลี่ย 11.19 ซี.ซี.เอส.
นางสุวคนธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากเชิญชวนให้เกษตรกรลดการเผาอ้อยส่งโรงงาน ซึ่งทาง กอน. มีเป้าหมายที่จะลดการเผาอ้อยเพื่อตัดส่งโรงงานอ้อยลงร้อยละ 15 จากปีที่ผ่านมา เพื่อลดการสูญเสียและจะทำให้ความหวานเฉลี่ยสูงขึ้น ถึงแม้ราคาอ้อยขั้นต้นในปีนี้จะลดลงแต่ถ้าได้ความหวานเพิ่มขึ้นก็จะส่งผลให้ราคาอ้อยที่เกษตรกรได้รับขั้นสุดท้ายสูงตามไปด้วย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
นางสุวคนธ์ ทรงแสงธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 6 (สศข.6) จังหวัดชลบุรี สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในเดือนธันวาคมของทุกปี พื้นที่ภาคตะวันออกจะเข้าสู่ฤดูการเก็บเกี่ยวอ้อยโรงงาน และจากมติของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายได้ประกาศราคาอ้อยเบื้องต้นปี 2550/51 ตันละ 600 บาท ที่ความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. และราคาขึ้น/ลง 36.00 บาทต่อซี.ซี.เอส ปีนี้ โรงงานน้ำตาลในภาคตะวันออกจะเปิดหีบ 4 โรง จากโรงงาน 5 โรง โดยมีกำหนดการเปิดหีบและจัดสรรปริมาณอ้อยเข้าหีบ ดังนี้
(1) บริษัท สหการน้ำตาลชลบุรี จำกัด เปิดหีบวันที่ 7 ธันวาคม 2550 ได้รับจัดสรร 769,100 ตัน
(2) บริษัท นิวกว้างซุ้นหลี จำกัด เปิดหีบวันที่ 10 ธันวาคม 2550 ได้รับจัดสรร 813,100 ตัน
(3) บริษัท น้ำตาลและอ้อยตะวันออก จำกัด เปิดหีบวันที่ 10 ธันวาคม 2550 ได้รับจัดสรร 1,907,500 ตัน
(4) บริษัท น้ำตาลระยอง จำกัด เปิดหีบวันที่ 10 ธันวาคม 2550 ได้รับจัดสรร 495,300 ตัน
ส่วนบริษัท น้ำตาลอุตสาหกรรมน้ำตาลชลบุรี จำกัด ปีนี้ได้ขอหยุดหีบเพื่อซ่อมเครื่องจักร
ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้ประมาณการข้อมูลอ้อยโรงงาน ปี 2550/51 ภาคตะวันออกมีพื้นที่ ปลูกอ้อย 6 จังหวัด คือ จังหวัดชลบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ระยอง และจันทบุรี ซึ่งคาดว่ามีพื้นที่ปลูกประมาณ 325,815 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 4.86 ของประเทศ ลดลงจาก ปี 2549/50 ประมาณ 13,849 ไร่ หรือร้อยละ 4.08 ด้านผลผลิตคาดว่าจะมีประมาณ 3,265,670 ตัน ลดลงประมาณร้อยละ 8.57 โดยเฉพาะจังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา ระยองและชลบุรี ที่เกิดฝนทิ้งช่วงนานหลายเดือน
สำหรับเขตประสานงานอ้อยและน้ำตาลทรายเขต 8 ศูนย์บริหารการผลิต สำนักงานอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดูแลโรงงานน้ำตาลในภาคตะวันออก ได้ให้ข้อมูลว่าในปีการผลิต 2549/50 ที่ผ่านมา ภาคตะวันออกมีปริมาณอ้อยเข้าหีบรวม 3,304,409 ตัน เป็นปริมาณอ้อยสด 1,142,381.58 ตัน หรือร้อยละ 34.57 และเป็นอ้อยไฟไหม้ (เผาก่อนตัด)รวมปริมาณ 2,162,108.42 ตัน หรือร้อยละ 65.43 ของปริมาณทั้งหมด ส่งผลให้เกิดการสูญเสียและความหวานเฉลี่ยลดลง โดยมีความหวานเฉลี่ย 11.19 ซี.ซี.เอส.
นางสุวคนธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากเชิญชวนให้เกษตรกรลดการเผาอ้อยส่งโรงงาน ซึ่งทาง กอน. มีเป้าหมายที่จะลดการเผาอ้อยเพื่อตัดส่งโรงงานอ้อยลงร้อยละ 15 จากปีที่ผ่านมา เพื่อลดการสูญเสียและจะทำให้ความหวานเฉลี่ยสูงขึ้น ถึงแม้ราคาอ้อยขั้นต้นในปีนี้จะลดลงแต่ถ้าได้ความหวานเพิ่มขึ้นก็จะส่งผลให้ราคาอ้อยที่เกษตรกรได้รับขั้นสุดท้ายสูงตามไปด้วย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-