สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์ 23 - 29 พ.ย. 61
1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
มติที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.)ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 เห็นชอบในหลักการมาตรการฯ ด้านการผลิตและการตลาด ทั้งหมด10 โครงการดังนี้
1) โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบนาแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่)
2) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์
3) โครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง
4) โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแม่นยำสูง (Precision Farming)
5) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพชั้นเลิศ
6) โครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดข้าวพันธุ์ กข 43 เพื่อสุขภาพแบบครบวงจร และ
7) โครงการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตข้าวในพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง
หมายเหตุ * ด้านการผลิต เป็นโครงการที่หน่วยงานดำเนินการตามปกติ จึงไม่นำเข้าที่ประชุม ครม.พิจารณามาตรการฯ
- มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24กรกฎาคม 2561 อนุมัติการดำเนินโครงการและวงเงินงบประมาณที่ใช้ช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2561/62 ด้านการตลาด จำนวน 3 โครงการ ได้แก่
1) โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีและการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว
2) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร และ
3) โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก
- มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11กันยายน 2561 อนุมัติทบทวนมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2561/62 โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2561/61 ตามมติคณะกรรมการนบข.เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2561ที่กระทรวงพาณิชย์เสนอดังนี้
(1) กรณีเกษตรกรฝากเก็บข้าวไว้ที่สหกรณ์หรือสถาบันเกษตรกร ให้ปรับปรุงให้ค่าเก็บรักษาข้าวเปลือก
(2) เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ต้องเก็บรักษาข้าวเปลือกหลักประกันไว้ในยุ้งฉางหรือสถานที่เก็บของตนเองเท่านั้น
(3) ปรับปรุงวิธีการเก็บรักษาข้าวเปลือกของสถาบันเกษตรกร ต้องเก็บรักษาข้าวเปลือกโดยบรรจุข้าวเปลือกในกระสอบป่านหรือถุง Big bag และวางเรียงในยุ้งฉางหรือสถานที่เก็บเพื่อสะดวกในการตรวจสอบ หรือเก็บข้าวในยุ้งฉางที่ยกพื้นสูงหรือไซโล (SILO) ยกเว้นกรณีเทกองจะต้องมีระบบการระบายอากาศ เพื่อการรักษาคุณภาพข้าวเปลือกไม่ให้เสื่อมสภาพตลอดระยะเวลาโครงการ
1.2 ราคา
ข้าวเปลือกเจ้านาปีหอมมะลิสัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 15,164 บาท ราคาลดลงจากตันละ 15,244 บาทในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.52
ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 9,670 บาท ราคาเพิ่มขึ้นจากตันละ 8,002 บาทในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.99
ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 1 (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 34,050บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวขาว 5% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 11,750บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวหอมมะลิไทย 100% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 1,112 ดอลลาร์สหรัฐฯ (36,409 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 1,113 ดอลลาร์สหรัฐฯ (36,397 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.08 แต่สูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 12 บาท
ข้าวขาว 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,097 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 401 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,113 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.24 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 16 บาท
ข้าวขาว 25% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 391 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,802 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 390 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,754 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.25 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 48 บาท
ข้าวนึ่ง 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,097 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 401 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,113 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.24 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 16 บาท
หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 32.7416
2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ
ภาวะราคาข้าวขาว 5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ตันละ 410 ดอลลาร์สหรัฐ จากตันละ 415-420 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่ภาวะการค้ายังคงค่อนข้างซบเซา เนื่องจากในช่วงนี้ผู้ส่งออกไม่ค่อยทำสัญญาขายข้าว เพราะราคาข้าวของเวียดนามสูงกว่าประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่อื่นๆ ประกอบกับ อุปทานข้าวในประเทศมีจำกัด ขณะที่วงการค้าคาดว่า ราคาข้าวมีแนวโน้มอ่อนตัวลงมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งอื่นๆ เช่น ไทย อินเดีย และคาดว่าภาวะตลาดในประเทศจะยังคงซบเซาไปจนถึงต้นปีหน้าซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวฤดูหนาว (the winter-spring crop) จะออกสู่ตลาด
ขณะเดียวกันวงการค้ากำลังจับตากรณีที่บริษัท The Tan Long Group ชนะการประมูลข้าวของฟิลิปปินส์จำนวน 118,000 ตัน แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าบริษัทดังกล่าวจะซื้อข้าวในประเทศเพื่อส่งมอบให้ฟิลิปปินส์ หรือหาซื้อจากแหล่งใดมีรายงานว่า คณะผู้แทนการค้าของจีนประมาณ 22 ราย จากมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งมีบริษัทนำเข้าข้าวข้าวด้วย เดินทางไปเยือนเวียดนามเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและหาลู่ทางในการขยายปริมาณการค้าระหว่างกัน ทั้งนี้ประเทศจีนถือเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในปัจจุบัน โดยในช่วง 10 เดือนแรก เวียดนามส่งข้าวไปประเทศจีนแล้วประมาณ 1.24 ล้านตัน มูลค่ากว่า 640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา : สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
ฟิลิปปินส์
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์) เปิดเผยว่า วันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 กรมการค้าต่างประเทศชนะการประมูลนำเข้าข้าวขาว 25% ฤดูกาลผลิตใหม่ของหน่วยงาน National Food Authority (NFA) รัฐบาลสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ปริมาณ 80,000 ตัน กำหนดส่งมอบข้าวภายในเดือนธันวาคม 2561
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา NFA ได้เปิดประมูลนำเข้าข้าวเป็นการทั่วไปหรือประมูลของเอกชนเป็นข้าวขาว 25% ปริมาณ 500,000 ตัน ปรากฏว่า ผู้ส่งออกข้าวไทย 2 ราย ชนะการประมูลรวม 144,000 ตัน คิดเป็นร้อยละ 28 ของปริมาณที่เปิดประมูล โดยมีกำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม 2561 – ม.ค. 2562
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 รองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ) ในฐานะรองประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้ให้ความเห็นชอบการตกลงราคาขายข้าวงวดที่ 7 กับ COFCO Corporation (COFCO) รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ปริมาณ 100,000 ตัน เป็นข้าวขาว 5% ฤดูกาลผลิตใหม่ มีกำหนดส่งมอบปลายเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม และเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561
นายอดุลย์ กล่าวว่า ไทยจะต้องเตรียมส่งออกข้าวทั้งของรัฐบาลและเอกชนปริมาณรวม 324,000 ตัน ซึ่งถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งส่งท้ายปีสำหรับชาวนาและตลาดข้าวไทย เนื่องจากมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศปริมาณมากมารองรับผลผลิตข้าวนาปีที่กำลังออกสู่ตลาดในช่วงสิ้นปีนี้ โดยผู้ส่งออกข้าวจะต้องไปรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาเพื่อส่งมอบ และการส่งออกข้าวปริมาณมากในระยะเวลาที่สั้นจะช่วยให้การระบายข้าวฤดูกาลผลิตใหม่เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลบวกต่อราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรจะได้รับเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นและต่อการค้าข้าวไทยทั้งระบบ
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 27 พฤศจิกายน 2561 ไทยส่งออกข้าวแล้วปริมาณ 9.89 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 161,384 ล้านบาท มูลค่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.52 มั่นใจว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ 11 ล้านตัน ตามเป้าอย่างแน่นอน เนื่องจากประเทศผู้นำเข้าข้าวยังมีคำสั่งซื้อข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มประเทศในภูมิภาคแอฟริกาที่จะมีการนำเข้าข้าวก่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ที่มา : www.ryt9.com
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร