1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต
การเพาะเลี้ยงกุ้งมังกรในกระชัง
กุ้งมังกรเป็นสัตว์น้ำที่หายาก มีราคาแพง การเลี้ยงกุ้งมังกรในกระชังส่วนใหญ่จะหาลูกพันธุ์กุ้งมังกรจากชาวประมงที่รวบรวมได้จากธรรมชาติ ขนาด 1 นิ้ว ราคาตัวละ 70—80 บาท นำมาอนุบาลในกระชังตาถี่ 2 เดือน โดยให้อาหารประเภทปลาหรือหอยสับ อนุบาลครบ 2 เดือน จะได้ลูกกุ้งมังกรขนาด 200 กรัม ราคาขายตัวละ 250 บาท กุ้งมังกรขนาดนี้สามารถนำไปเลี้ยงในกระชังได้เลย หากเกษตรกรพอมีพื้นที่ขยายให้ได้ลูกพันธุ์กุ้งมังกร รวบรวมกุ้งมังกรมาเลี้ยงไว้ในกระชังเพื่อให้เป็นพ่อแม่พันธุ์ ให้แม่กุ้งได้ผสมพันธุ์ในกระชังจนไข่ติดที่ท้องตัวเมีย จากนั้นนำ แม่กุ้งขึ้นมาเพาะฟักอนุบาลในบ่อซีเมนต์ ก่อนนำลูกกุ้งมังกรไปปล่อยตามป่าชายเลนหรือป่าโกงกาง เพื่อให้มีชีวิตรอดอยู่ตามธรรมชาติ จนลูกกุ้งได้ขนาด จึงนำมาเลี้ยงหรืออนุบาลในกระชัง กุ้งมังกรมีหลาย สายพันธุ์ เช่น กุ้งมังกร 7 สี หรือกุ้งมังกรสีน้ำตาล กุ้งมังกร 7 สี จะมีผู้นิยมเลี้ยงกันมากกว่าสายพันธุ์อื่น เพราะเลี้ยงง่าย เจริญเติบโตดีกว่า พันธุ์อื่นๆ เลี้ยง 7—8 เดือน จะได้ขนาด 800—1,000 กรัม/ตัว ราคาอยู่ในระหว่าง 1,200—1,500 บาท/กก. ส่วนกุ้งมังกรสีน้ำตาล แม้ว่าต้นทุนลูกพันธุ์จะถูกกว่ามากก็ตาม แต่ผู้เลี้ยงไม่ค่อยนิยม เพราะตลาดมีความต้องการน้อย การเลี้ยงจะโตช้ากว่า ราคาขาย 600—800 บาท/กก. ปัจจุบันสถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งสงขลา โดยกลุ่มงานวิจัยระบบฯ ได้นำกุ้งมังกรสีน้ำตาล( Polyphagus) ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์มาจากหน่วยงานประมงประเทศพม่าให้ นำมาเลี้ยงประมาณ 50 ตัว ลูกกุ้งมังกรที่นำมาปล่อยขนาด 50 กรัม/ตัว ทดลองเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ระบบน้ำหมุนเวียน การเลี้ยงกุ้งมังกรในกระชังมีการเลี้ยงกันมากในแถบฝั่งอันดามัน เช่นบริเวณตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งก่อนเกิดสึนามิบริเวณดังกล่าวมีการเลี้ยงกุ้งมังกรเป็นอาชีพ บางคนก็เลี้ยงแบบผสมผสานควบคู่ไปกับการเลี้ยงปลาและหอยแมลงภู่ บางรายกำลังขยายการเลี้ยงเพิ่มขึ้น อาหารที่ใช้เลี้ยงส่วนใหญ่จะเป็นปลาหรือหอยแมลงภู่สด บางรายให้อาหารทุกวัน บางรายให้ 2-3วันต่อครั้ง สารมารถจับขายได้ตลอดเวลา จะมีพ่อค้ามารับซื้อตลอด ตั้งแต่ขนาด 600-700 กรัมต่อตัว จะขายได้ราคาดีหากขนาดประมาณ 500 กรัม
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (29 ธ.ค. 2550 — 4 ม.ค. 2551) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 562.73 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 404.11 ตัน สัตว์น้ำจืด 158.63 ตัน ประกอบด้วยสัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 2.38 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 3.55 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 61.24 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 15.42 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 52.77 ตัน
การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 30.54 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 30.93 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.39 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ ไม่มีรายงานราคาจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 56.44 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 56.57 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.13 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 100.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.3 กุ้งกุลาดำ ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคาสำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 128.41 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 130.23 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่าน 1.82 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 120.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.5 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 48.52 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 50.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.6 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้ ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 110.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 102.86 บาท ของสัปดาห์ก่อน 7.14 บาท
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.22 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 6.32 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.11 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% (ระหว่างวันที่ 19-25 ม.ค. 2551) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 23.60 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ ประจำวันที่ 21-27 มกราคม 2551--
-พห-
การผลิต
การเพาะเลี้ยงกุ้งมังกรในกระชัง
กุ้งมังกรเป็นสัตว์น้ำที่หายาก มีราคาแพง การเลี้ยงกุ้งมังกรในกระชังส่วนใหญ่จะหาลูกพันธุ์กุ้งมังกรจากชาวประมงที่รวบรวมได้จากธรรมชาติ ขนาด 1 นิ้ว ราคาตัวละ 70—80 บาท นำมาอนุบาลในกระชังตาถี่ 2 เดือน โดยให้อาหารประเภทปลาหรือหอยสับ อนุบาลครบ 2 เดือน จะได้ลูกกุ้งมังกรขนาด 200 กรัม ราคาขายตัวละ 250 บาท กุ้งมังกรขนาดนี้สามารถนำไปเลี้ยงในกระชังได้เลย หากเกษตรกรพอมีพื้นที่ขยายให้ได้ลูกพันธุ์กุ้งมังกร รวบรวมกุ้งมังกรมาเลี้ยงไว้ในกระชังเพื่อให้เป็นพ่อแม่พันธุ์ ให้แม่กุ้งได้ผสมพันธุ์ในกระชังจนไข่ติดที่ท้องตัวเมีย จากนั้นนำ แม่กุ้งขึ้นมาเพาะฟักอนุบาลในบ่อซีเมนต์ ก่อนนำลูกกุ้งมังกรไปปล่อยตามป่าชายเลนหรือป่าโกงกาง เพื่อให้มีชีวิตรอดอยู่ตามธรรมชาติ จนลูกกุ้งได้ขนาด จึงนำมาเลี้ยงหรืออนุบาลในกระชัง กุ้งมังกรมีหลาย สายพันธุ์ เช่น กุ้งมังกร 7 สี หรือกุ้งมังกรสีน้ำตาล กุ้งมังกร 7 สี จะมีผู้นิยมเลี้ยงกันมากกว่าสายพันธุ์อื่น เพราะเลี้ยงง่าย เจริญเติบโตดีกว่า พันธุ์อื่นๆ เลี้ยง 7—8 เดือน จะได้ขนาด 800—1,000 กรัม/ตัว ราคาอยู่ในระหว่าง 1,200—1,500 บาท/กก. ส่วนกุ้งมังกรสีน้ำตาล แม้ว่าต้นทุนลูกพันธุ์จะถูกกว่ามากก็ตาม แต่ผู้เลี้ยงไม่ค่อยนิยม เพราะตลาดมีความต้องการน้อย การเลี้ยงจะโตช้ากว่า ราคาขาย 600—800 บาท/กก. ปัจจุบันสถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งสงขลา โดยกลุ่มงานวิจัยระบบฯ ได้นำกุ้งมังกรสีน้ำตาล( Polyphagus) ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์มาจากหน่วยงานประมงประเทศพม่าให้ นำมาเลี้ยงประมาณ 50 ตัว ลูกกุ้งมังกรที่นำมาปล่อยขนาด 50 กรัม/ตัว ทดลองเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ระบบน้ำหมุนเวียน การเลี้ยงกุ้งมังกรในกระชังมีการเลี้ยงกันมากในแถบฝั่งอันดามัน เช่นบริเวณตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งก่อนเกิดสึนามิบริเวณดังกล่าวมีการเลี้ยงกุ้งมังกรเป็นอาชีพ บางคนก็เลี้ยงแบบผสมผสานควบคู่ไปกับการเลี้ยงปลาและหอยแมลงภู่ บางรายกำลังขยายการเลี้ยงเพิ่มขึ้น อาหารที่ใช้เลี้ยงส่วนใหญ่จะเป็นปลาหรือหอยแมลงภู่สด บางรายให้อาหารทุกวัน บางรายให้ 2-3วันต่อครั้ง สารมารถจับขายได้ตลอดเวลา จะมีพ่อค้ามารับซื้อตลอด ตั้งแต่ขนาด 600-700 กรัมต่อตัว จะขายได้ราคาดีหากขนาดประมาณ 500 กรัม
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (29 ธ.ค. 2550 — 4 ม.ค. 2551) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 562.73 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 404.11 ตัน สัตว์น้ำจืด 158.63 ตัน ประกอบด้วยสัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 2.38 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 3.55 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 61.24 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 15.42 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 52.77 ตัน
การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 30.54 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 30.93 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.39 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ ไม่มีรายงานราคาจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 56.44 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 56.57 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.13 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 100.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.3 กุ้งกุลาดำ ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคาสำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 128.41 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 130.23 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่าน 1.82 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 120.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.5 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 48.52 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 50.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.6 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้ ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 110.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 102.86 บาท ของสัปดาห์ก่อน 7.14 บาท
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.22 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 6.32 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.11 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% (ระหว่างวันที่ 19-25 ม.ค. 2551) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 23.60 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ ประจำวันที่ 21-27 มกราคม 2551--
-พห-