สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์: ข้าว

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 21, 2022 15:03 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์ 14 - 20 มีนาคม 2565

1.สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ

1.1 มาตรการสินค้าข้าว

1) โครงการสำคัญภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปีการผลิต 2564/65 ดังนี้

1.1) ด้านการผลิต

(1) การจัดการปัจจัยการผลิต ได้แก่ โครงการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าว และมาตรการควบคุมค่าเช่าที่นา

(2) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว ได้แก่ โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ โครงการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตพืช โครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้สู่มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการพัฒนาและส่งเสริมการเกษตร (ข้าวพันธุ์ กข43 และข้าวเจ้าพื้นนุ่ม) โครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าว โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนและเพิ่มพื้นที่ระบบส่งน้ำให้พื้นที่เกษตรกรรม และการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับการผลิตข้าวยั่งยืน

(3) การควบคุมปริมาณการผลิตข้าว ได้แก่ โครงการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรตามแผนที่การเกษตรเชิงรุก (Zoning by Agri-Map) โครงการส่งเสริมการปลูกพืชหลากหลาย โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผ่านระบบสหกรณ์ แผนการถ่ายทอดความรู้การผลิตพืชหลังนาและการใช้น้ำในการผลิตพืชอย่างมีประสิทธิภาพ และแผนการผลิตพันธุ์พืชและปัจจัยการผลิต

(4) การพัฒนาชาวนา ได้แก่ โครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง (Smart Farmer)

(5) การวิจัยและพัฒนา ได้แก่ การปรับปรุงพันธุ์ข้าวเจ้าพื้นแข็ง และพันธุ์ข้าวเหนียว

(6) การประกันภัยพืชผล ได้แก่ โครงการประกันภัยข้าวนาปี

(7) การส่งเสริมการสร้างยุ้งฉางให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรทั่วประเทศ (รัฐชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3)

1.2) ด้านการตลาด

(1) การพัฒนาตลาดสินค้าข้าว ได้แก่ โครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์ และข้าว GAP ครบวงจร

(2) การชะลอผลผลิตออกสู่ตลาด ได้แก่ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก โครงการส่งเสริมผลักดันการส่งออกข้าว และโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว

(3) การจัดหาและเชื่อมโยงตลาดต่างประเทศ ได้แก่ โครงการกระชับความสัมพันธ์และรณรงค์สร้างการรับรู้ในศักยภาพข้าวไทย เพื่อขยายตลาดข้าวไทยในต่างประเทศ และโครงการ ลด/แก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าข้าวไทยและเสริมสร้างความเชื่อมั่น

(4) การส่งเสริมภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ข้าว ผลิตภัณฑ์ข้าว และนวัตกรรมข้าว ได้แก่ โครงการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในงานแสดงสินค้านานาชาติ และโครงการเสริมสร้างศักยภาพสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยเพื่อการต่อยอดเชิงพาณิชย์

(5) การประชาสัมพันธ์รณรงค์บริโภคข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวของไทยทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ

(6) การประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในกลุ่มผู้บริโภคในต่างประเทศผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย

2) มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65

มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 อนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 และมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 อนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 และมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 ดังนี้

2.1) โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 โดยกำหนดชนิดข้าว ราคา และปริมาณประกันรายได้ (ณ ราคาความชื้นไม่เกิน 15%) ดังนี้ (1) ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาประกันตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน (2) ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาประกันตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน (3) ข้าวเปลือกเจ้า ราคาประกันตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน (4) ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาประกันตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และ (5) ข้าวเปลือกเหนียว ราคาประกันตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน

2.2) มาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 ประกอบด้วย 3 โครงการ ได้แก่

(1) โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/65 โดย ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรในเขตพื้นที่ปลูกข้าวทั่วประเทศ เพื่อรักษาราคาข้าวเปลือกให้มีเสถียรภาพโดยให้มีการเก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉางของเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร เพื่อชะลอผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกันเป็นจำนวนมาก เป้าหมายจำนวน 2 ล้านตันข้าวเปลือก วงเงินสินเชื่อต่อตัน จำแนกเป็น ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 11,000 บาทข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 9,500 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 5,400 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 7,300 บาท และข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ตันละ 8,600 บาท รวมทั้งเกษตรกรที่เก็บข้าวเปลือกในยุ้งฉางตนเอง จะได้รับค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกในอัตราตันละ 1,500 บาท สำหรับสถาบันเกษตรกรที่รับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้รับในอัตราตันละ 1,000 บาท และเกษตรกรผู้ขายข้าวเปลือก ได้รับในอัตราตันละ 500 บาท

(2) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2564/65โดย ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชน เพื่อรวบรวมข้าวเปลือกจำหน่าย และ/หรือเพื่อการแปรรูป วงเงินสินเชื่อเป้าหมาย 15,000 ล้านบาทคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 4 ต่อปี โดยสถาบันเกษตรกรรับภาระดอกเบี้ย ร้อยละ 1 ต่อปี รัฐบาลรับภาระชดเชยดอกเบี้ยให้สถาบันเกษตรกรร้อยละ 3 ต่อปี

(3)โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปีการผลิต 2564/65 ผู้ประกอบการค้าข้าวรับซื้อข้าวเปลือกเพื่อเก็บสต็อก เป้าหมาย 4 ล้านตันข้าวเปลือก โดยสามารถรับซื้อจากเกษตรกร ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 - 31 มีนาคม 2565 (ภาคใต้ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2565) และเก็บสต็อกในรูปข้าวเปลือกและข้าวสาร ระยะเวลาการเก็บสต็อกอย่างน้อย 60 - 180 วัน (2 - 6 เดือน) นับแต่วันที่รับซื้อ โดยรัฐชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3

2.3) โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65

ธ.ก.ส. ดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ลดต้นทุนการผลิต ให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 20,000 บาท

1.2 ราคา

1) ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ

ข้าวเปลือกเจ้านาปีหอมมะลิ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 11,665 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 11,638 บาทในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.23

ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 8,255 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 7,845 บาทในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 5.23

2) ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ

ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 1 (ใหม่) สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 25,770 บาท ราคาลดลงจากตันละ 25,950 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.69

ข้าวขาว 5% (ใหม่) สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 12,570 บาท ราคาลดลงจากตันละ 12,610 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.32

3) ราคาส่งออกเอฟโอบี

ข้าวหอมมะลิไทย 100% (ใหม่) สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 759 ดอลลาร์สหรัฐฯ (25,140 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 766 ดอลลาร์สหรัฐฯ (25,133 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.91 แต่สูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 7 บาท

ข้าวขาว 5% สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 422 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,978 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 420 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,780 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.48 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 198 บาท

ข้าวนึ่ง 5% สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 428 ดอลลาร์สหรัฐฯ (14,177 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 417 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,682 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.64 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 495 บาท

หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยนสัปดาห์นี้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 33.1230 บาท

2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ

เมียนมา

สื่อทางการเมียนมารายงานว่า สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) กำลังดำเนินงานเกี่ยวกับการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มจากแกลบและรำข้าวสหพันธ์ฯ ระบุว่า โครงการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มจากผลพลอยได้ของข้าวจะดำเนินงานร่วมกับเจ้าของโรงสีข้าว โดยสหพันธ์ฯ จะใช้แกลบช่วยผลิตไฟฟ้า และรำข้าวผลิตน้ำมันรำข้าว ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ครอบคลุมธุรกิจน้ำมันสำหรับการบริโภค การผลิตพลังงานหมุนเวียน และการผลิตอาหารสัตว์เมียนมา อะกรีบิสิเนส คอร์เปอเรชัน (Myanmar Agribusiness Public Corporation) ของสหพันธ์ฯได้ดำเนินโครงการนำร่องผลิตพลังงานด้วยแกลบในสองเมืองท้องถิ่น ขณะเดียวกันมีการดำเนินโครงการนำร่องผลิตน้ำมันรำข้าวด้วยเทคโนโลยีการสกัดด้วยตัวทำละลายการกลั่นด้วยวิธีทางกายภาพ

โดยสหพันธ์ฯ ระบุเพิ่มเติมว่า มูลค่าการผลิตรายปีของอุตสาหกรรมข้าวสูงประมาณ 3.94 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.3 แสนล้านบาท) โดยสหพันธ์ฯ ขับเคลื่อนเพิ่มมูลค่าสินค้าในประเทศ รวมถึงมีการลงทุนและการค้า สำหรับการผลิตและการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าภายในประเทศดังกล่าว จะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ทางเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา: xinhuathai

รัสเซีย

รัสเซียสั่งระงับการส่งออกธัญพืชไปยังกลุ่มประเทศอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตเป็นการชั่วคราว รวมถึงการส่งออกน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่ ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงกล่าวว่า รัสเซียจะยังคงให้สิทธิ์เทรดเดอร์ที่ได้รับโควตาอยู่ในขณะนี้เป็นกรณีพิเศษ

นายมิคาอิล มิชูสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ได้ลงนามในคำสั่งห้ามส่งออกน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายดิบจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2565 และห้ามส่งออกข้าวสาลี ข้าวไรย์ ข้าวบาร์เลย์ และข้าวโพด ไปยังประเทศสมาชิกของสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) โดยมีผลจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียแสดงความกังวลเกี่ยวกับการส่งออกธัญพืชไปยังประเทศอดีตสหภาพโซเวียตซึ่งอยู่ในเขตปลอดภาษีภายใต้กรอบความร่วมมือ EAEU โดยสินค้าที่ส่งอออกไปยังสหภาพ EAEU ไม่ได้เข้าข่ายโควตาการส่งออกธัญพืชและภาษีในปัจจุบันของรัสเซีย

แถลงการณ์ของรัฐบาลระบุว่า รัสเซียนำมาตรการดังกล่าวมาใช้เพื่อป้องกันตลาดอาหารในประเทศซึ่งเผชิญกับข้อจำกัดจากปัจจัยภายนอก

อย่างไรก็ดี รัฐบาลรัสเซียไม่ได้กล่าวถึงใบอนุญาตการส่งออกในแถลงการณ์ แต่ระบุว่า การขนส่งลำเลียงธัญพืชจากต่างประเทศผ่านทาง EAEU จะยังคงทำได้

ทั้งนี้ รัสเซียเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่สุดของโลก โดยมีอียิปต์และตุรกีเป็นประเทศผู้นำเข้าหลัก และรัสเซียยังเป็นคู่แข่งการส่งออกข้าวสาลีกับสหภาพยุโรป (EU) และยูเครน

ที่มา: ryt9 ยูเครน

นายกฯ ยูเครน เผยเตรียมจัดตั้งคลังสำรองอาหารรับมือการรุกรานของรัสเซียนายกรัฐมนตรีเดนิส ชไมฮาล แห่งยูเครน ได้ออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลยูเครนจะจัดตั้งคลังสำรองอาหาร เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และกองทัพในช่วงที่ต้องเผชิญกับการรุกรานของรัสเซีย

"ยูเครนจะจัดซื้อธัญพืชและอาหารชนิดอื่นๆ เพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภคตลอดทั้งปีของประชาชนทั้งประเทศ โดยใช้งบประมาณภาครัฐ" นายชไมฮาลกล่าว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยูเครนเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก แต่นักวิเคราะห์ด้านกสิกรรมระบุว่า การรุกรานของรัสเซีย ซึ่งรัสเซียยืนกรานว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษ" นั้น อาจลดพื้นที่เพาะปลูกธัญพืชสำหรับปี 2565 จนนำไปสู่ภาวะขาดแคลนทั่วโลก รวมถึงยูเครนด้วย

รัฐบาลยูเครนเปิดเผยว่า เหล่าเกษตรกร ซึ่งปกติแล้วจะเริ่มเตรียมการเพาะปลูกประจำฤดูใบไม้ผลิในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคม จะเริ่มต้นหว่านเมล็ดพืชในพื้นที่ปลอดภัย แต่อาจเผชิญภาวะขาดแคลนเชื้อเพลิงและเมล็ดพืช

ที่มา: ryt9

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ