ราคายางแผ่นดิบชั้น 3 ตลาดหาดใหญ่ สัปดาห์นี้ 81.32 บาท/กิโลกรัม
1. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาภายในประเทศ
นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีพื้นที่ปลูกยางพาราประมาณ 15 ล้านไร่
โดยอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 2 ล้านไร่ ซึ่งสามารถเปิดกรีดได้แล้ว 6.3 แสนไร่ ผลผลิตรวม 1.5 แสนตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.1 หมื่น
ล้านบาท คาดว่าในปี 2554 จะมีพื้นที่เปิดกรีดได้ 1.5 ล้านไร่ ผลผลิตรวม 3.75 แสนตัน กระทรวงเกษตรฯ จึงได้กำหนดมาตรการรองรับผลผลิต
โดยจัดตั้งตลาดกลางยางพารา จ.หนองคาย และบุรีรัมย์ สร้างตลาดเครือข่ายตลาดกลางยางพาราระหว่างจังหวัด และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ดำเนินการจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพาราเพื่อส่งออก ขณะเดียวกัน ประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม มีแนวโน้มการปลูกยางพาราเพิ่มมาก
ขึ้น คาดว่าในอีก 6-7 ปีข้างหน้า จะมีพื้นที่ปลูกยางในแถบนี้รวมประมาณ 6-7 ล้านไร่ นอกจากนี้กระทรวงเกษตรฯ มีเป้าหมายพัฒนาให้ภาคตะวัน
ออกเฉียงเหนือเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยางครบวงจรของภูมิภาคอินโดจีน เพื่อรองรับปริมาณยางและผลิตภัณฑ์แปรรูป รวมถึงรองรับยางพาราจาก
ประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งจะส่งเสริมการใช้ยางในประเทศจาก 10%เพิ่มเป็น 15-20% และใช้ยางเพื่อทำผลิตภัณฑ์ 40% อีก 60% แปรรูปเป็นยาง
ดิบ โดยขณะนี้ภาครัฐกำลังหาผู้ประกอบการหรือนักลงทุนเข้ามาสร้างโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
1. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.88 บาท สูงขึ้นจาก 80.45 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.43 บาท หรือร้อยละ 0.53
2. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 2 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.38 บาท สูงขึ้นจาก 79.95 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.43 บาท หรือร้อยละ 0.54
3. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 79.88 บาท สูงขึ้นจาก 79.45 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.43 บาท หรือร้อยละ 0.54
4. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 4 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 79.55 บาท สูงขึ้นจาก 78.86 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.69 บาท หรือร้อยละ 0.87
5. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 5 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 78.83 บาท สูงขึ้นจาก 78.14 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.69 หรือร้อยละ 0.88
6. ยางแผ่นดิบคละราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 77.40 บาท ลดลงจาก 78.51 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
1.11 บาท หรือร้อยละ 1.41
7. ยางก้อนคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 41.39 บาท สูงขึ้นจาก 40.95 บาท ของสัปดาห์ที่แล้ว กิโลกรัมละ
0.44 บาท หรือร้อยละ 1.07
8. เศษยางคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 38.00 บาท สูงขึ้นจาก 37.73 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.27 บาท หรือร้อยละ 0.72
9. น้ำยางข้นคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 75.97 บาท ลดลงจาก 76.14 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.17 บาท หรือร้อยละ 0.22
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. ซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนเมษายน 2551
ณ ท่าเรือกรุงเทพ
1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 89.06 บาท ลดลงจาก 90.48 บาท ของสัปดาห์ที่แล้ว
กิโลกรัมละ 1.42 บาท หรือร้อยละ 1.57
2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 87.91 บาท ลดลงจาก 89.33 บาท ของสัปดาห์ที่แล้ว
กิโลกรัมละ 1.42 บาท หรือร้อยละ 1.59
3. น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.26 บาท ลดลงจาก 59.08 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.82 บาท หรือร้อยละ 1.39
ณ ท่าเรือสงขลา
1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 88.81 บาท ลดลงจาก 90.23 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
1.42 บาท หรือร้อยละ 1.57
2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 87.66 บาท ลดลงจาก 89.08 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
1.42 บาท หรือร้อยละ 1.59
3. น้ำยางข้นราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.01 บาท ลดลงจาก 58.83 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.82 บาท หรือร้อยละ 1.39
2. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาในตลาดต่างประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและอุตสาหกรรมมาเลเซียกล่าว่า ในปี 2551 คาดว่ามาเลเซียจะส่งออกยางพารา 1.16 ล้าน
ตัน เนื่องจากผลผลิตและอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นปี 2550 มาเลเซียลิตยางพาราได้ 1.20 ล้านตัน ส่งออก 1.02 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 85
ของผลผลิตทั้งหมด ในปีนี้ถ้าสภาพอากาศเหมาะสมมาเลเซียจะผลิตยางพาราได้ประมาณ 1.26 ล้านตัน โดยมีประเทศคู่ค้าที่สำคัญ คือ จีน
เยอรมัน และสหรัฐอเมริกา โดยส่งออกไปยังบริษัทผู้ผลิตถุงมือยางเป็นส่วนใหญ่ ปี 2550 มาเลเซียส่งออกถุงมือยางมูลค่า 5,900 ล้าน
ริงกิต เพิ่มขึ้นจาก 5,400 ล้านริงกิต ของปี 2549 ร้อยละ 9.26
ราคาต่างประเทศซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนเมษายน 2551
ยางแผ่นรมควันชั้น 1
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 389.83 เซนต์สิงคโปร์ (87.09 บาท) สูงขึ้นจาก 388.88 เซนต์สิงคโปร์
( 87.40 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.95 เซนสิงคโปร์ หรือร้อยละ 0.24
ยางแผ่นรมควันชั้น 3
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์เฉลี่ยกิโลกรัมละ 280.08 เซนต์สหรัฐ (87.01 บาท) สูงขึ้นจาก 278.94 เซนต์สหรัฐ
(87.38 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.14 เซนต์สหรัฐหรือร้อยละ 0.41 ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดโตเกียว เฉลี่ยกิโลกรัมละ
266.37 เยน ( 83.93 บาท) ลดลงจาก 282.64 เยน (86.45 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 16.27 เยน หรือร้อยละ 5.76
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ ประจำวันที่ 17-23 มีนาคม 2551--
-พห-
1. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาภายในประเทศ
นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีพื้นที่ปลูกยางพาราประมาณ 15 ล้านไร่
โดยอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 2 ล้านไร่ ซึ่งสามารถเปิดกรีดได้แล้ว 6.3 แสนไร่ ผลผลิตรวม 1.5 แสนตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.1 หมื่น
ล้านบาท คาดว่าในปี 2554 จะมีพื้นที่เปิดกรีดได้ 1.5 ล้านไร่ ผลผลิตรวม 3.75 แสนตัน กระทรวงเกษตรฯ จึงได้กำหนดมาตรการรองรับผลผลิต
โดยจัดตั้งตลาดกลางยางพารา จ.หนองคาย และบุรีรัมย์ สร้างตลาดเครือข่ายตลาดกลางยางพาราระหว่างจังหวัด และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ดำเนินการจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพาราเพื่อส่งออก ขณะเดียวกัน ประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม มีแนวโน้มการปลูกยางพาราเพิ่มมาก
ขึ้น คาดว่าในอีก 6-7 ปีข้างหน้า จะมีพื้นที่ปลูกยางในแถบนี้รวมประมาณ 6-7 ล้านไร่ นอกจากนี้กระทรวงเกษตรฯ มีเป้าหมายพัฒนาให้ภาคตะวัน
ออกเฉียงเหนือเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยางครบวงจรของภูมิภาคอินโดจีน เพื่อรองรับปริมาณยางและผลิตภัณฑ์แปรรูป รวมถึงรองรับยางพาราจาก
ประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งจะส่งเสริมการใช้ยางในประเทศจาก 10%เพิ่มเป็น 15-20% และใช้ยางเพื่อทำผลิตภัณฑ์ 40% อีก 60% แปรรูปเป็นยาง
ดิบ โดยขณะนี้ภาครัฐกำลังหาผู้ประกอบการหรือนักลงทุนเข้ามาสร้างโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
1. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.88 บาท สูงขึ้นจาก 80.45 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.43 บาท หรือร้อยละ 0.53
2. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 2 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.38 บาท สูงขึ้นจาก 79.95 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.43 บาท หรือร้อยละ 0.54
3. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 79.88 บาท สูงขึ้นจาก 79.45 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.43 บาท หรือร้อยละ 0.54
4. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 4 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 79.55 บาท สูงขึ้นจาก 78.86 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.69 บาท หรือร้อยละ 0.87
5. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 5 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 78.83 บาท สูงขึ้นจาก 78.14 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.69 หรือร้อยละ 0.88
6. ยางแผ่นดิบคละราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 77.40 บาท ลดลงจาก 78.51 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
1.11 บาท หรือร้อยละ 1.41
7. ยางก้อนคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 41.39 บาท สูงขึ้นจาก 40.95 บาท ของสัปดาห์ที่แล้ว กิโลกรัมละ
0.44 บาท หรือร้อยละ 1.07
8. เศษยางคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 38.00 บาท สูงขึ้นจาก 37.73 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.27 บาท หรือร้อยละ 0.72
9. น้ำยางข้นคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 75.97 บาท ลดลงจาก 76.14 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.17 บาท หรือร้อยละ 0.22
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. ซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนเมษายน 2551
ณ ท่าเรือกรุงเทพ
1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 89.06 บาท ลดลงจาก 90.48 บาท ของสัปดาห์ที่แล้ว
กิโลกรัมละ 1.42 บาท หรือร้อยละ 1.57
2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 87.91 บาท ลดลงจาก 89.33 บาท ของสัปดาห์ที่แล้ว
กิโลกรัมละ 1.42 บาท หรือร้อยละ 1.59
3. น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.26 บาท ลดลงจาก 59.08 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.82 บาท หรือร้อยละ 1.39
ณ ท่าเรือสงขลา
1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 88.81 บาท ลดลงจาก 90.23 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
1.42 บาท หรือร้อยละ 1.57
2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 87.66 บาท ลดลงจาก 89.08 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
1.42 บาท หรือร้อยละ 1.59
3. น้ำยางข้นราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.01 บาท ลดลงจาก 58.83 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ
0.82 บาท หรือร้อยละ 1.39
2. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาในตลาดต่างประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและอุตสาหกรรมมาเลเซียกล่าว่า ในปี 2551 คาดว่ามาเลเซียจะส่งออกยางพารา 1.16 ล้าน
ตัน เนื่องจากผลผลิตและอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นปี 2550 มาเลเซียลิตยางพาราได้ 1.20 ล้านตัน ส่งออก 1.02 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 85
ของผลผลิตทั้งหมด ในปีนี้ถ้าสภาพอากาศเหมาะสมมาเลเซียจะผลิตยางพาราได้ประมาณ 1.26 ล้านตัน โดยมีประเทศคู่ค้าที่สำคัญ คือ จีน
เยอรมัน และสหรัฐอเมริกา โดยส่งออกไปยังบริษัทผู้ผลิตถุงมือยางเป็นส่วนใหญ่ ปี 2550 มาเลเซียส่งออกถุงมือยางมูลค่า 5,900 ล้าน
ริงกิต เพิ่มขึ้นจาก 5,400 ล้านริงกิต ของปี 2549 ร้อยละ 9.26
ราคาต่างประเทศซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนเมษายน 2551
ยางแผ่นรมควันชั้น 1
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 389.83 เซนต์สิงคโปร์ (87.09 บาท) สูงขึ้นจาก 388.88 เซนต์สิงคโปร์
( 87.40 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.95 เซนสิงคโปร์ หรือร้อยละ 0.24
ยางแผ่นรมควันชั้น 3
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์เฉลี่ยกิโลกรัมละ 280.08 เซนต์สหรัฐ (87.01 บาท) สูงขึ้นจาก 278.94 เซนต์สหรัฐ
(87.38 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.14 เซนต์สหรัฐหรือร้อยละ 0.41 ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดโตเกียว เฉลี่ยกิโลกรัมละ
266.37 เยน ( 83.93 บาท) ลดลงจาก 282.64 เยน (86.45 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 16.27 เยน หรือร้อยละ 5.76
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ ประจำวันที่ 17-23 มีนาคม 2551--
-พห-