สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผย พร้อมเป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านการเกษตรในภูมิภาคอาเซียน โดยแต่ละประเทศจะจัดส่งข้อมูลมายังสำนักงานฯ ภายใต้โครงการ AFSIS มั่นใจ พร้อมเผยแพร่ผ่าน Website “afsis.oae.go.th” ได้ในเดือนธันวาคม 2551
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้กับรัฐมนตรีของจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2549 ณ ประเทศสิงคโปร์ เห็นชอบให้ดำเนินโครงการ AFSIS ระยะที่ 2 ต่อไปอีก 5 ปี (2551-2555) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศสมาชิกมีระบบข้อมูลสารสนเทศที่ถูกต้องครบถ้วน ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนและจัดทำนโยบาย รวมทั้งติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ด้านความมั่นคงทางด้านอาหารในภูมิภาคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านระบบเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูล
ประเทศไทยโดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ซื่งเป็นผู้จัดการโครงการ มีเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านการจัดทำข้อมูลและเป็นศูนย์กลางข้อมูลการเกษตร ของกลุ่มประเทศ ASEAN จึงได้เสนอแผนพัฒนาฐานข้อมูลด้านการเกษตร ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลด้านการผลิต ราคา การนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรของสินค้า 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว ถั่วเหลือง มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และอ้อยโรงงาน ข้อมูลประชากร แรงงาน GDP รวมทั้งข้อมูลที่สำคัญด้านความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ ข้อมูลเตือนภัย (Early Warning Information) และพยากรณ์สินค้าเกษตรในภูมิภาคอาเซียน (Commodity Outlook Report) เป็นข้อมูลสนับสนุนในการกำหนดนโยบายและการวางแผนทั้งด้านการผลิตและการตลาดให้แก่ประเทศสมาชิกได้มากยิ่งขึ้น
นายอภิชาติ กล่าวต่อไปว่า จากการประชุมระดับอธิบดีด้านสถิติการเกษตรของประเทศสมาชิกอาเซียนกับอธิบดีของจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 11-12 มีนาคม 2551 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดทำข้อมูลด้านการเกษตรในภูมิภาคนี้ โดยแต่ละประเทศจะจัดส่งข้อมูลมายังฐานข้อมูลของ สศก. ภายใต้โครงการ AFSIS ซึ่ง สศก.จะวิเคราะห์ และเผยแพร่ผ่าน Website “afsis.oae.go.th” ทั้งนี้ จะเผยแพร่ได้ในเดือนธันวาคม 2551 และคาดว่า จากการดำเนินงานดังกล่าว จะทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้นำและศูนย์กลางด้านข้อมูลการเกษตรของภูมิภาคอาเซียนต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้กับรัฐมนตรีของจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2549 ณ ประเทศสิงคโปร์ เห็นชอบให้ดำเนินโครงการ AFSIS ระยะที่ 2 ต่อไปอีก 5 ปี (2551-2555) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศสมาชิกมีระบบข้อมูลสารสนเทศที่ถูกต้องครบถ้วน ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนและจัดทำนโยบาย รวมทั้งติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ด้านความมั่นคงทางด้านอาหารในภูมิภาคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านระบบเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูล
ประเทศไทยโดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ซื่งเป็นผู้จัดการโครงการ มีเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านการจัดทำข้อมูลและเป็นศูนย์กลางข้อมูลการเกษตร ของกลุ่มประเทศ ASEAN จึงได้เสนอแผนพัฒนาฐานข้อมูลด้านการเกษตร ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลด้านการผลิต ราคา การนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรของสินค้า 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว ถั่วเหลือง มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และอ้อยโรงงาน ข้อมูลประชากร แรงงาน GDP รวมทั้งข้อมูลที่สำคัญด้านความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ ข้อมูลเตือนภัย (Early Warning Information) และพยากรณ์สินค้าเกษตรในภูมิภาคอาเซียน (Commodity Outlook Report) เป็นข้อมูลสนับสนุนในการกำหนดนโยบายและการวางแผนทั้งด้านการผลิตและการตลาดให้แก่ประเทศสมาชิกได้มากยิ่งขึ้น
นายอภิชาติ กล่าวต่อไปว่า จากการประชุมระดับอธิบดีด้านสถิติการเกษตรของประเทศสมาชิกอาเซียนกับอธิบดีของจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 11-12 มีนาคม 2551 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดทำข้อมูลด้านการเกษตรในภูมิภาคนี้ โดยแต่ละประเทศจะจัดส่งข้อมูลมายังฐานข้อมูลของ สศก. ภายใต้โครงการ AFSIS ซึ่ง สศก.จะวิเคราะห์ และเผยแพร่ผ่าน Website “afsis.oae.go.th” ทั้งนี้ จะเผยแพร่ได้ในเดือนธันวาคม 2551 และคาดว่า จากการดำเนินงานดังกล่าว จะทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้นำและศูนย์กลางด้านข้อมูลการเกษตรของภูมิภาคอาเซียนต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-