สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 1 ประชาสัมพันธ์รณรงค์ป้องกันปัญหาหมอกควันพิษ วอนชาวบ้านและเกษตรกรละเว้นการเผาตอซังข้าวและเศษซากพืช เพื่อเตรียมเพาะปลูกในช่วงฤดูฝน อีกทั้งบรรเทาภาวะหมอกควันพิษที่กำลังแพร่กระจายอยู่ในปัจจุบัน
นายบรรลุ จันทร์สาม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต1 (สศข.1) จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสภาวะอากาศโดยทั่วไปของจังหวัดต่างๆในเขตภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และ แม่ฮ่องสอน ซึ่งขณะนี้มีลักษณะคล้ายกับมีหมอกควันปกคลุมอยู่ตลอดเวลา โดยเป็นลักษณะเช่นเดียวกับเหตุการณ์หมอกควันพิษที่เกิดขึ้นในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในบางจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ลำปาง และแม่ฮ่องสอน ซึ่งพบว่ามีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนเกินค่ามาตรฐาน (120 ไมโครกรัม/ลบ.ม.) และจากสภาวะดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยทั่วไปแล้ว เช่น จากรายงานจากสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เผยว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจแล้วกว่า 2,000 คน อันเป็นสัญญาณบ่งชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มสถานการณ์คุณภาพอากาศที่ย่ำแย่ลง
ปัญหาหมอกควันพิษที่กำลังแพร่กระจายอยู่นี้ อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุหลาย ๆ ประการ เช่น หมอกควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ท่อไอเสียรถ หรือไฟป่าธรรมชาติ แต่ส่วนหนึ่งของปัญหานั้นเกิดจากการเผาทำลายเศษวัสดุของชาวบ้านและเกษตรกร ที่กำลังเตรียมพื้นที่เพาะปลูกในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง เช่น การเผาทำลายขยะ การเผาพื้นที่ป่าเพื่อเตรียมการเพาะปลูกพืชไร่รวมถึงการล่าสัตว์และหาของป่า และการเผาตอซังข้าวทั้งในช่วงก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว รวมถึงพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ โดยกิจกรรมดังกล่าวนอกจากจะก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันพิษแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน ซึ่งได้กลายเป็นวาระของโลกไปแล้ว ดังนั้น จึงอยากขอความร่วมมือจากชาวบ้านและเกษตรกรในเขตภาคเหนือตอนบน ให้ละเว้นหรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมดังกล่าวและหันมาแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการอื่น
ในส่วนเกษตรกรนั้น ควรหันมาใช้วิธีการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทน เช่น การใช้วิธีไถกลบตอซังข้าว หรือการหว่านพืชคลุมดินก่อนการไถกลบ เพื่อเตรียมการเพาะปลูก เพราะวิธีการดังกล่าวสามารถช่วยปรับปรุงบำรุงดินและฟื้นฟูสภาพดินเสื่อมโทรม ให้มีความอุดมสมบูรณ์และช่วยเพิ่มปริมาณอินทรีย์วัตถุให้กับดิน ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยลดปัญหามลพิษแล้วยังจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย นายบรรลุ กล่าวทิ้งท้าย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
นายบรรลุ จันทร์สาม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต1 (สศข.1) จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสภาวะอากาศโดยทั่วไปของจังหวัดต่างๆในเขตภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และ แม่ฮ่องสอน ซึ่งขณะนี้มีลักษณะคล้ายกับมีหมอกควันปกคลุมอยู่ตลอดเวลา โดยเป็นลักษณะเช่นเดียวกับเหตุการณ์หมอกควันพิษที่เกิดขึ้นในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในบางจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ลำปาง และแม่ฮ่องสอน ซึ่งพบว่ามีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนเกินค่ามาตรฐาน (120 ไมโครกรัม/ลบ.ม.) และจากสภาวะดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยทั่วไปแล้ว เช่น จากรายงานจากสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เผยว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจแล้วกว่า 2,000 คน อันเป็นสัญญาณบ่งชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มสถานการณ์คุณภาพอากาศที่ย่ำแย่ลง
ปัญหาหมอกควันพิษที่กำลังแพร่กระจายอยู่นี้ อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุหลาย ๆ ประการ เช่น หมอกควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ท่อไอเสียรถ หรือไฟป่าธรรมชาติ แต่ส่วนหนึ่งของปัญหานั้นเกิดจากการเผาทำลายเศษวัสดุของชาวบ้านและเกษตรกร ที่กำลังเตรียมพื้นที่เพาะปลูกในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง เช่น การเผาทำลายขยะ การเผาพื้นที่ป่าเพื่อเตรียมการเพาะปลูกพืชไร่รวมถึงการล่าสัตว์และหาของป่า และการเผาตอซังข้าวทั้งในช่วงก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว รวมถึงพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ โดยกิจกรรมดังกล่าวนอกจากจะก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันพิษแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน ซึ่งได้กลายเป็นวาระของโลกไปแล้ว ดังนั้น จึงอยากขอความร่วมมือจากชาวบ้านและเกษตรกรในเขตภาคเหนือตอนบน ให้ละเว้นหรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมดังกล่าวและหันมาแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการอื่น
ในส่วนเกษตรกรนั้น ควรหันมาใช้วิธีการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทน เช่น การใช้วิธีไถกลบตอซังข้าว หรือการหว่านพืชคลุมดินก่อนการไถกลบ เพื่อเตรียมการเพาะปลูก เพราะวิธีการดังกล่าวสามารถช่วยปรับปรุงบำรุงดินและฟื้นฟูสภาพดินเสื่อมโทรม ให้มีความอุดมสมบูรณ์และช่วยเพิ่มปริมาณอินทรีย์วัตถุให้กับดิน ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยลดปัญหามลพิษแล้วยังจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย นายบรรลุ กล่าวทิ้งท้าย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-