สศก. ติดตามโครงการส่งเสริมพัฒนาอาชีพแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน จ.สระแก้วช่วยเกษตรกรมีที่ทำกิน สร้างรายได้ให้มั่นคง
นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการติดตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร ปีงบประมาณ 2566 ซึ่งเป็นโครงการภายใต้แผนงานบูรณาการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก โดยมีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพหลัก มีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ วัตถุประสงค์เพื่อสร้างรายได้จากอาชีพหลักและอาชีพเสริม ให้แก่สมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่โดยปีงบประมาณ 2566 โครงการกำหนดการดำเนินงาน 270 พื้นที่ รวม 65 จังหวัด เกษตรกรเป้าหมาย 13,670 ราย
ผลการดำเนินงานโครงการฯ รอบ 9 เดือน (ตุลาคม 2565 - มิถุนายน 2566) ภาพรวม พบว่า มีการดำเนินงานใน 3 กิจกรรม ได้แก่ 1) กิจกรรมอบรมถ่ายทอดความรู้การพัฒนาอาชีพ และการตลาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ 2) กิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อวางแผนระบบการผลิต การตลาด และเสริมทักษะการเป็นผู้ประกอบการ และ 3) กิจกรรมการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการผลิตให้มีคุณภาพ และเตรียมความพร้อมเพื่อยกระดับสู่มาตรฐาน ดำเนินการได้ 176 พื้นที่ จากเป้าหมาย 270 พื้นที่ (ร้อยละ 65.19) รวม 65 จังหวัด ครบตามเป้าหมาย เกษตรกรได้รับการอบรมถ่ายทอดความรู้รวม 8,434 ราย จากเป้าหมาย 13,670 ราย (ร้อยละ 61.70)
ในการนี้ สศก. ได้ลงพื้นที่ติดตามเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินอำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ระหว่างวันที่ 26 - 30 มิถุนายน 2566 พบว่า มีเกษตรกรเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินที่ได้รับจัดสรร 78 ราย เนื้อที่ประมาณ 768 ไร่ แบ่งเป็น เนื้อที่จัดสรรให้เกษตรกร 78 รายๆ ละ 6 ไร่ รวม 468 ไร่ และเป็นพื้นที่แปลงรวม 300 ไร่ (เกษตรกรสามารถเช่าที่เพื่อปลูกพืชตามความต้องการ)
สำหรับการใช้ประโยชน์พื้นที่ของเกษตรกรรายละ 6 ไร่ เกษตรกรจะแบ่งเป็นที่ทำกินรายละ 5 ไร่ โดยส่วนใหญ่เกษตรกรปลูกมันสำปะหลังเป็นหลัก และที่อยู่อาศัย 1 ไร่ พร้อมสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการสร้างบ้าน มูลค่ารายละ 40,000 บาท ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทุกรายเป็นสมาชิกสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินอำเภอวัฒนานคร (คทช.) จำกัด นอกจากนี้ หน่วยงานได้มีการจัดอบรมถ่ายทอดความรู้ตามภารกิจ ได้แก่ หลักสูตรการพัฒนาอาชีพ การส่งเสริมด้านการตลาด ซึ่งดำเนินการโดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ และหลักสูตรการพัฒนาคุณภาพดิน โดยกรมพัฒนาที่ดิน การเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยกรมประมง และการทำการเกษตรที่เหมาะสม โดยกรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตรและสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ทั้งนี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการจัดอบรม พร้อมทั้งสนับสนุนปัจจัยการผลิต อาทิ พันธุ์พืช/ประมง อาหารสัตว์ และวัสดุอุปกรณ์ทางการเกษตร (ปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ ปูนไดโลไมท์)
ด้านผลการสำรวจรายได้ ปีเพาะปลูก 2565/66 พบว่า เกษตรกรที่เพาะปลูกมันสำปะหลังเป็นหลัก มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วเฉลี่ย 3,080 บาท/ไร่/ปี ด้านการเพาะปลูกข้าวเกษตรกรส่วนใหญ่นำมาบริโภคในครัวเรือนและนำผลผลิตจากการปลูกพืชผักสวนครัว การเลี้ยงปลาดุกมาใช้เป็นอาหารบริโภคในครัวเรือนเช่นกัน ซึ่งสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนลงได้เฉลี่ย 9,896.57 บาท/ครัวเรือน/ปี และมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายพืชผักสวนครัวเฉลี่ย 16,250 บาท/ครัวเรือน/ปี
?ภาพรวมเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ มีความพึงพอใจต่อการดำเนินโครงการเป็นอย่างมาก เนื่องจากโครงการดังกล่าว ทำให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง และสามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ รวมทั้งได้รับความช่วยเหลือด้านอื่นๆ จากหน่วยงานภาครัฐอีกด้วย ทั้งนี้ ในระยะถัดไปเห็นควรส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการของกลุ่มในด้านการผลิต และการตลาด เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพและเกิดความยั่งยืนของโครงการ? รองเลขาธิการ สศก. กล่าว
********************************************
ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์ / ข้อมูล : ศูนย์ประเมินผล
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร