สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์: ข้าว

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 3, 2024 14:04 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์ 27 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2567

1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ

1.1 การผลิต

1) ข้าวนาปี ปี 2567/68 สศก. คาดการณ์ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2567 มีเนื้อที่เพาะปลูก 62.310 ล้านไร่ ผลผลิต 26.308 ล้านตัน ผลผลิตต่อไร่ 422 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปี 2566/67 ที่มีเนื้อที่เพาะปลูก 61.928 ล้านไร่ ผลผลิต 25.569 ล้านตัน ผลผลิตต่อไร่ 413 กิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.62 ร้อยละ 2.89 และ ร้อยละ 2.18 ตามลำดับ โดยเนื้อที่เพาะปลูกคาดว่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาที่เกษตรกรขายได้อยู่ในเกณฑ์ดี และในปี 2567

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ว่าสภาพภูมิอากาศเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2567 จะอยู่ในสภาวะเอลนีโญ แต่มีแนวโน้มสูงที่จะเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะเป็นกลางในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2567 และมีแนวโน้มจะเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะลานีญาในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน 2567 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว สภาพภูมิอากาศเข้าสู่ภาวะเอลนีโญตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 ถึง เมษายน 2567 ทำให้คาดว่าจะมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เพียงพอต่อการเพาะปลูกและระยะเจริญเติบโต เกษตรกรจึงขยายเนื้อที่เพาะปลูกในพื้นที่ที่ปล่อยว่างเมื่อปี 2566 สำหรับผลผลิตต่อไร่คาดว่าเพิ่มขึ้น จากปริมาณน้ำฝนเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของต้นข้าว ไม่กระทบแล้งและประสบอุทกภัยเหมือนปีที่แล้ว ส่งผลให้ภาพรวมผลผลิตทั้งประเทศเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ คาดการณ์ผลผลิตจะออกสู่ตลาดช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 - พฤษภาคม 2568 โดยผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปริมาณ 16.884 ล้านตันข้าวเปลือก คิดเป็นร้อยละ 64.18 ของผลผลิตข้าวนาปีทั้งหมด

2) ข้าวนาปรัง ปี 2567 สศก. คาดการณ์ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2567 มีเนื้อที่เพาะปลูก 9.708 ล้านไร่ ผลผลิต 6.238 ล้านตันข้าวเปลือก และผลผลิตต่อไร่ 643 กิโลกรัม ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 8.47 ร้อยละ 9.82 และร้อยละ 1.38 ตามลำดับ เนื้อที่เพาะปลูกลดลง เนื่องจากปรากฎการณ์เอลนีโญทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่และปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติน้อยกว่าปี 2566 ส่งผลให้น้ำต้นทุนไม่เพียงพอ เกษตรกรบางพื้นที่จึงปล่อยที่นาให้ว่าง สำหรับผลผลิตต่อไร่คาดว่าลดลง เนื่องจากปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของต้นข้าว

คาดการณ์ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - ตุลาคม 2567 โดยเดือนมิถุนายน 2567 ผลผลิตออกสู่ตลาด ปริมาณ 0.302 ล้านตันข้าวเปลือก คิดเป็นร้อยละ 4.84 ของผลผลิตข้าวนาปรังทั้งหมด และคาดว่าเหลือผลผลิตในช่วงเดือนกรกฎาคม - ตุลาคม 2567 อีก 0.222 ล้านตันข้าวเปลือก หรือคิดเป็นร้อยละ 3.56 ของผลผลิตข้าวนาปรังทั้งหมด

1.2 ราคา
1) ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ

ข้าวเปลือกเจ้านาปีหอมมะลิ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 14,706 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 14,553 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.05

ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 10,998 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 10,880 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.09 2) ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ

ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 1 (ใหม่) สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 34,050 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 33,675 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.11

ข้าวขาว 5% (ใหม่) สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 21,650 บาท ราคาลดลงจากตันละ 21,825 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.80 3) ราคาส่งออกเอฟโอบี

ข้าวหอมมะลิไทย 100% (ใหม่) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา

ข้าวขาว 5% สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา

ข้าวนึ่ง 5% สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา

2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ

1) ไทย

ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ในเดือนเมษายน 2567 ไทยสามารถส่งออกข้าวได้ 933,498 ตัน มูลค่า 608 ล้านดอลลาร์ (22,156.07 ล้านบาท) ทั้งปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 64.2 และร้อยละ 91.5 ตามลำดับ ซึ่งเป็นการขยายตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566 เนื่องจากตลาดอิรัก อินโดนีเซีย แอฟริกาใต้ สหรัฐฯ และจีน มีความต้องการนำเข้าข้าวเพิ่มมากขึ้น เพื่อความมั่นคงทางอาหาร ประกอบกับประเทศผู้ผลิตที่สำคัญ เช่น บราซิล และเม็กซิโก กำลังประสบปัญหาน้ำท่วม ส่งผลให้อุปทานข้าวในตลาดขณะนี้มีปริมาณน้อย สำหรับการส่งออกในช่วงเดือนมกราคม ? เมษายน 2567 มีปริมาณ 3,398,144 ตัน มูลค่า 2,219 ล้านดอลลาร์ (80,862.36 ล้านบาท) ทั้งปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 29.1 และร้อยละ 53.8 ตามลำดับ

นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า สมาคมฯ วางแผนปรับเพิ่มเป้าหมายการส่งออกข้าวปี 2567 จากเดิมกำหนดไว้ที่ 7.5 ล้านตัน เป็น 8 ล้านตัน เนื่องจากปริมาณการส่งออกสะสม 4 เดือน (มกราคม ? เมษายน) มากกว่า 3 ล้านตัน ซึ่งยังเหลืออีก 8 เดือน (พฤษภาคม - ธันวาคม) คาดว่าในปี 2567 การส่งออกข้าวจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ ข้าวเป็นสินค้าเกษตรที่มีความผันผวนของราคาสูงจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะปัจจัยด้านประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่อย่างอินเดียที่ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับระยะเวลาการใช้มาตรการห้ามส่งออกข้าว ส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกผันผวน ไม่มีเสถียรภาพ และปัจจัยด้านสภาพอากาศ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ว่า สภาพภูมิอากาศเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2567 จะอยู่ในสภาวะเอลนีโญ แต่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะเป็นกลางในช่วงเดือนเมษายน - มิถุนายน 2567 และมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะลานีญาในช่วงเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2567 ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2567 จะมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้น จากปี 2566 เพียงพอต่อการเพาะปลูกและระยะการเจริญเติบโตของต้นข้าว ส่งผลให้ภาพรวมผลผลิตทั้งประเทศอาจเพิ่มขึ้น

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยนสัปดาห์นี้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 36.4409 บาท

2) ฟิลิปปินส์

กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) คาดการณ์ว่าในปี 2568 ฟิลิปปินส์จะยังคงเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกเป็นปีที่สามติดต่อกัน เนื่องจากการเติบโตของจำนวนประชากรและการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องพึ่งพาอุปทานข้าวจากต่างประเทศ โดยในปี 2568 คาดว่าจะมีการนำเข้าข้าวปริมาณ 4.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากการประมาณการนำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์ในปี 2567 ที่ 4.1 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.44 ทั้งนี้ การนำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์คิดเป็นประมาณ 1 ใน 5 ของอุปทานทั้งหมดต่อปี (ไม่รวมสต็อกเริ่มต้น) และนับตั้งแต่ฟิลิปปินส์เปิดเสรีการนำเข้าและยกเลิกการควบคุมระบอบการค้าข้าวในปี 2562 พบว่า การนำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี นอกจากนี้ สำนักอุตสาหกรรมพืช กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ รายงานเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 2 พฤษภาคม 2567 ฟิลิปปินส์มีการนำเข้าข้าวประมาณ 1.6 ล้านตัน สำหรับด้านการบริโภคและความต้องการข้าว ในปี 2568 คาดว่ามีประมาณ 17.10 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากการประมาณการการบริโภคข้าวในปี 2567 ที่ 16.60 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.01 ส่งผลให้ฟิลิปปินส์จะยังคงเป็นผู้บริโภคข้าวอันดับ 6 ของโลก และคาดการณ์ว่าการบริโภคข้าวโลกจะมีปริมาณ 526.40 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ใหม่ เนื่องจากการเติบโตของจำนวนประชากรในอินเดีย บังคลาเทศ และฟิลิปปินส์ ส่วนด้านการผลิต ในปี 2568 คาดว่ามีผลผลิตประมาณ 12.70 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากการประมาณการการผลิตในปี 2567 ที่ 12.50 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.60 และส่งผลให้ฟิลิปปินส์เป็นผู้ผลิตข้าวอันดับ 7 ของโลก

สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (PSA) คาดการณ์ว่า ในปี 2568 ฟิลิปปินส์จะมีประชากรจำนวน 113.63 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากจำนวนประชากรอย่างเป็นทางการในปี 2563 ที่ 109.04 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.21 และในช่วงปี 2563 - 2568 คาดว่าอัตราการเติบโตของประชากรเฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ร้อยละ 0.84

ที่มา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร


แท็ก ข้อมูล  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ