สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์: ข้าว

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 24, 2024 15:15 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์ 17 - 23 มิถุนายน 2567

1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ

1.1 การผลิต

1) ข้าวนาปี ปี 2567/68 สศก. คาดการณ์ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2567 มีเนื้อที่เพาะปลูก 62.123 ล้านไร่ ผลผลิต 27.035 ล้านตัน ผลผลิตต่อไร่ 435 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับปี 2566/67 ที่มีเนื้อที่เพาะปลูก 62.215 ล้านไร่ ผลผลิต 26.833 ล้านตัน ผลผลิตต่อไร่ 431 กิโลกรัม เนื้อที่เพาะปลูกลดลงร้อยละ 0.15 ในขณะที่ผลผลิตและผลผลิตต่อไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.76 และร้อยละ 0.93 ตามลำดับ โดยเนื้อที่เพาะปลูกคาดว่าจะลดลง เนื่องจากเกษตรกรมีแนวโน้มที่จะปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เช่น อ้อยโรงงาน หรือมันสำปะหลัง สำหรับผลผลิตและผลผลิตต่อไร่คาดว่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ ณ เดือนพฤษภาคม 2567 ว่าปรากฎการณ์เอลนีโญเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะเป็นกลางในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2567

หลังจากนั้นมีความน่าจะเป็นร้อยละ 49 ที่จะเข้าสู่สภาวะลานีญาในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 2567 ส่งผลให้คาดว่าจะมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของต้นข้าว และจะไม่กระทบแล้งและประสบอุทกภัยเหมือนปีที่แล้ว ประกอบกับเกษตรกรมีการดูแลรักษาผลผลิตดีขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมผลผลิตทั้งประเทศเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ คาดการณ์ผลผลิตจะออกสู่ตลาดช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 - พฤษภาคม 2568 โดยผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปริมาณ 17.668 ล้านตันข้าวเปลือก คิดเป็นร้อยละ 65.34 ของผลผลิตข้าวนาปีทั้งหมด

2) ข้าวนาปรัง ปี 2567 สศก. คาดการณ์ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2567 มีเนื้อที่เพาะปลูก 9.671 ล้านไร่ ผลผลิต 6.217 ล้านตันข้าวเปลือก และผลผลิตต่อไร่ 643 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีเนื้อที่เพาะปลูก 10.606 ล้านไร่ ผลผลิต 6.918 ล้านตัน ผลผลิตต่อไร่ 652 กิโลกรัม ทั้งเนื้อที่เพาะปลูก ผลผลิต และผลผลิตต่อไร่ลดลงจาก ปี 2566 ร้อยละ 8.81 ร้อยละ 10.14 และร้อยละ 1.38 ตามลำดับ โดยเนื้อที่เพาะปลูกคาดว่าลดลง เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเข้าสู่ภาวะเอลนีโญตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 ถึง เมษายน 2567 ทำให้ฝนมาล่าช้า ฝนทิ้งช่วง ปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าปีที่แล้ว ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติน้อยกว่าปีที่แล้ว โดยน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้การได้ทั่วทั้งประเทศปี 2566 ลดลงจากปี 2565 ประมาณร้อยละ 8.40 และน้ำต้นทุนไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูกในช่วงฤดูนาปรัง ประกอบกับทางภาครัฐขอความร่วมมือให้ลดการเพาะปลูกข้าวนาปรัง นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตยังคงอยู่ในเกณฑ์สูง อาทิ ปุ๋ยเคมี น้ำมันเชื้อเพลิง เกษตรกรบางรายจึงปล่อยพื้นที่ว่างหรือปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทน ส่วนผลผลิตต่อไร่คาดว่าลดลง เนื่องจากสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง ปริมาณน้ำไม่เพียงพอ และในบางพื้นที่ประสบปัญหาโรคขอบใบแห้ง ทำให้ต้นข้าวเจริญเติบโตไม่ดี เมล็ดข้าวไม่สมบูรณ์

คาดการณ์ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - ตุลาคม 2567 โดยเดือนมิถุนายน 2567 ผลผลิตออกสู่ตลาด ปริมาณ 0.294 ล้านตันข้าวเปลือก คิดเป็นร้อยละ 4.72 ของผลผลิตข้าวนาปรังทั้งหมด และคาดว่าเหลือผลผลิตในช่วงเดือนกรกฎาคม - ตุลาคม 2567 อีก 0.212 ล้านตันข้าวเปลือก หรือคิดเป็นร้อยละ 3.42 ของผลผลิต ข้าวนาปรังทั้งหมด

1.2 ราคา

1) ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ

ข้าวเปลือกเจ้านาปีหอมมะลิ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 14,988 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 14,948 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.27

ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 11,245 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 11,203 บาทในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.38

2) ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ

ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 1 (ใหม่) สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 34,050 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน

ข้าวขาว 5% (ใหม่) สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 21,470 บาท ราคาลดลงจากตันละ 21,510 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.19

3) ราคาส่งออกเอฟโอบี

ข้าวหอมมะลิไทย 100% (ใหม่) สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 909 ดอลลาร์สหรัฐฯ (33,160 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 908 ดอลลาร์สหรัฐฯ (33,140 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.11 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 20 บาท

ข้าวขาว 5% สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 632 ดอลลาร์สหรัฐฯ (23,055 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 645 ดอลลาร์สหรัฐฯ (23,541 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.02 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 486 บาท

ข้าวนึ่ง 5% สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 616 ดอลลาร์สหรัฐฯ (22,472 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 629 ดอลลาร์สหรัฐฯ (22,957 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.07 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 485 บาท

หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยนสัปดาห์นี้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 36.4800 บาท

2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ

2.1 สถานการณ์ข้าวโลก

1) การผลิต

ผลผลิตข้าวโลก กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ได้คาดการณ์ผลผลิตข้าวโลกปี 2567/68 ณ เดือนมิถุนายน 2567 ผลผลิต 527.626 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้นจาก 520.000 ล้านตันข้าวสาร ในปี 2566/67 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.47

2) การค้าข้าวโลก

บัญชีสมดุลข้าวโลก กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ได้คาดการณ์บัญชีสมดุลข้าวโลกปี 2567/68 ณ เดือนมิถุนายน 2567 มีปริมาณผลผลิต 527.626 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้นจากปี 2566/67 ร้อยละ 1.47 การใช้ในประเทศ 526.436 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้นจากปี 2566/67 ร้อยละ 0.73 การส่งออก/นำเข้า 53.829 ล้านตันข้าวสาร ลดลงจากปี 2566/67 ร้อยละ 1.45 และสต็อกปลายปีคงเหลือ 177.984 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้นจากปี 2566/67 ร้อยละ 0.67

  • ประเทศที่คาดว่าจะส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ อินเดีย กัมพูชา บราซิล อุรุกวัย ปารากวัย อาร์เจนตินา สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ส่วนประเทศที่คาดว่าจะส่งออกลดลง ได้แก่ ไทย เวียดนาม ปากีสถาน เมียนมา กายานา และตุรกี
  • ประเทศที่คาดว่าจะนำเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ซาอุดิอาระเบีย เซเนกัล มาเลเซีย แอฟริกาใต้ กินี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เม็กซิโก โมซัมบิก สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น โซมาเลีย เยเมน และสหรัฐอเมริกา ส่วนประเทศที่คาดว่าจะนำเข้าลดลง ได้แก่ อิรัก จีน อินโดนีเซีย บราซิล และเคนยา
  • ประเทศที่มีสต็อกคงเหลือปลายปีเพิ่มขึ้น ได้แก่ จีน อินเดีย ไทย เวียดนาม และสหรัฐอเมริกา

ส่วนประเทศที่มีสต็อกคงเหลือปลายปีลดลง ได้แก่ อินโดนีเซีย และบังกลาเทศ

2.2 สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ

1) ไทย

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ รายงานผลการจัดแสดงสินค้าข้าวไทย โดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX ? ANUGA ASIA 2024 ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม ? 1 มิถุนายน 2567 ทางกรมฯ ได้นำผู้ประกอบการค้าข้าวคุณภาพดีจากหลากหลายจังหวัดที่เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวที่สำคัญของไทย เข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าในคูหากรมฯ ซึ่งในปีนี้ข้าวไทยได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้ซื้อและผู้นำเข้าต่างประเทศ เช่น จีน มาเลเซีย ฮ่องกง สิงคโปร์ บังกลาเทศ ฝรั่งเศส แคนาดา ออสเตรเลีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงตลาดใหม่ เช่น มองโกเลีย อุซเบกิสถาน ซาอุดีอาระเบีย และปาเลสไตน์ ทั้งนี้ ยังได้รับคำสั่งซื้อจากผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในไทย โดยได้รับคำสั่งซื้อภายในงานเป็นมูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 56.25 และคาดว่าจะมีคำสั่งซื้อภายในระยะเวลา 1 ปี มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 66.67

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสาธิตการทำอาหารจากข้าวไทย ภายใต้แนวคิด ?Taste the Authentic Thai Cuisine with Premium Thai Rice? ซึ่งได้รับการตอบรับดีกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ มีผู้เข้าชมทั้งภายในงานและ ผ่านช่องทางออนไลน์ประมาณ 74,000 ราย โดยการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในงานแสดงสินค้าดังกล่าว เป็นการสร้างรายได้และขยายช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการรายย่อยตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและแสดงศักยภาพของไทยในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกข้าวคุณภาพของโลก

ที่มา สำนักข่าวไทยแลนด์พลัส ออนไลน์

2) เมียนมา

สหพันธ์ข้าวเมียนมา (Myanmar Rice Federation: MRF) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2567 ซึ่งเป็น 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567/68 เมียนมาส่งออกข้าวสารและข้าวหักประมาณ 180,000 ตัน สร้างรายได้ให้กับเมียนมาประมาณ 91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,319.68 ล้านบาท) โดยเดือนเมษายน 2567 ส่งออกข้าวปริมาณ 111,862 ตัน แบ่งเป็นการส่งออกผ่านทางเรือขนส่งสินค้าทางทะเลในปริมาณ 111,462 ตัน และส่งออกผ่านการค้าชายแดนปริมาณ 400 ตัน ส่วนเดือนพฤษภาคม 2567 ส่งออกข้าวปริมาณ 71,279 ตัน แบ่งเป็นการส่งออกผ่านทางเรือขนส่งสินค้าทางทะเลในปริมาณ 70,751 ตัน และส่งออกผ่านการค้าชายแดน 528 ตัน ทั้งนี้ MRF กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ 2566/67 (เมษายน 2566 - มีนาคม 2567) เมียนมาส่งออกข้าวสารและข้าวหักได้ประมาณ 1.6 ล้านตัน มีมูลค่าประมาณ 845 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 30,825.60 ล้านบาท) และในปีงบประมาณ 2567/68 (เมษายน 2567 - มีนาคม 2568) MRF ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวไว้ที่ 2.5 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 36,480.00 ล้านบาท)

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ , สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย

หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยนสัปดาห์นี้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 36.4800 บาท

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร


แท็ก ข้อมูล  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ