สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์: ข้าว

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 20, 2025 10:53 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์ 13 - 19 มกราคม 2568

1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ

1.1 การผลิต

1) ข้าวนาปี ปี 2567/68 สศก. คาดการณ์ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2567 มีเนื้อที่เพาะปลูก 62.020 ล้านไร่ ผลผลิต 27.007 ล้านตัน ผลผลิตต่อไร่ 435 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับปี 2566/67 ที่มีเนื้อที่เพาะปลูก 62.098 ล้านไร่ ผลผลิต 26.934 ล้านตัน ผลผลิตต่อไร่ 431 กิโลกรัม เนื้อที่เพาะปลูกลดลงร้อยละ 0.13 ในขณะที่ผลผลิตและผลผลิตต่อไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.27 และร้อยละ 0.23 ตามลำดับ โดยเนื้อที่เพาะปลูกคาดว่าจะลดลง เนื่องจากเกษตรกร มีแนวโน้มที่จะปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เช่น อ้อยโรงงาน หรือมันสำปะหลัง สำหรับผลผลิตและผลผลิตต่อไร่คาดว่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำฝนภายหลังจากที่เพาะปลูกแล้วเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของต้นข้าว ประกอบกับราคาที่เกษตรกรขายได้ยังจูงใจให้เกษตรกรดูแลรักษา ถึงแม้ว่าในบางจังหวัดประสบอุทกภัยในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน 2567 มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานานทำให้ผลผลิตเสียหาย และบางพื้นที่มีการระบาดของแมลงหวี่ขาว แต่พื้นที่ส่วนใหญ่มีปริมาณน้ำฝนเพียงพอเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของต้นข้าว และไม่พบการระบาดของโรคและแมลง ส่งผลให้ภาพรวมผลผลิตทั้งประเทศเพิ่มขึ้น

คาดการณ์ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 - พฤษภาคม 2568 โดยเดือนมกราคม 2568 ผลผลิตออกสู่ตลาด ปริมาณ 0.417 ล้านตันข้าวเปลือก หรือคิดเป็นร้อยละ 1.54 ของผลผลิตข้าวนาปีทั้งหมด โดยตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม - มกราคม 2568 มีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 26.746 ล้านตันข้าวเปลือก หรือคิดเป็นร้อยละ 99.04 ของผลผลิตข้าวนาปีทั้งหมด คงเหลือผลผลิตที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดอีกประมาณ 0.261 ล้านตันข้าวเปลือก หรือร้อยละ 0.96 ของผลผลิตข้าวนาปีทั้งหมด

2) ข้าวนาปรัง ปี 2568 สศก. คาดการณ์ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2567 มีเนื้อที่เพาะปลูก 12.005 ล้านไร่ ผลผลิต 7.864 ล้านตันข้าวเปลือก และผลผลิตต่อไร่ 655 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับปี 2567 ที่มีเนื้อที่เพาะปลูก 10.125 ล้านไร่ ผลผลิต 6.560 ล้านตัน ผลผลิตต่อไร่ 648 กิโลกรัม ทั้งเนื้อที่เพาะปลูก ผลผลิต และผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นจาก ปี 2567 ร้อยละ 18.57 ร้อยละ 19.88 และร้อยละ 1.08 ตามลำดับ

โดยเนื้อที่เพาะปลูกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากปรากฏการณ์ลานีญาที่เริ่มขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม ถึง กันยายน 2567 และคาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2568 จะทำให้ปริมาณน้ำฝนมากกว่าปกติ รวมถึงน้ำในอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่และน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติเมื่อต้นฤดูกาลเพาะปลูกมีปริมาณมากกว่าปีที่แล้ว จูงใจให้เกษตรบางส่วนขยายเนื้อที่เพาะปลูกในที่นาที่เคยปล่อยว่าง เพื่อปลูกชดเชยข้าวนาปีที่เสียหายจากน้ำท่วม สำหรับผลผลิตต่อไร่คาดว่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีน้ำเพียงพอต่อต่อการเพาะปลูกและการเจริญเติบโตของต้นข้าว

ทั้งนี้ เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - ตุลาคม 2568 โดยคาดว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน 2568 ปริมาณรวม 5.33 ล้านตันข้าวเปลือก หรือร้อยละ 67.73 ของผลผลิต ข้าวนาปรังทั้งหมด

1.2 ราคา

1) ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ

ข้าวเปลือกเจ้านาปีหอมมะลิ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 14,999 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 14,778 บาทในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.50

ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 9,245 บาท ราคาลดลงจากตันละ 9,350 บาทในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.12

2) ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ

ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 1 (ใหม่) สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 35,150 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน

ข้าวขาว 5% (ใหม่) สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 15,130 บาท ราคาลดลงจากตันละ 15,430 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.94

3) ราคาส่งออกเอฟโอบี

ข้าวหอมมะลิไทย 100% (ใหม่) สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 944 ดอลลาร์สหรัฐฯ (32,480 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 918 ดอลลาร์สหรัฐฯ (31,530 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.83 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 950 บาท

ข้าวขาว 5% สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 472 ดอลลาร์สหรัฐฯ (16,240 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 494 ดอลลาร์สหรัฐฯ (16,967 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 4.45 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 727 บาท

ข้าวนึ่ง 5% สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 495 ดอลลาร์สหรัฐฯ (17,031 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 497 ดอลลาร์สหรัฐฯ (17,070 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.40 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 39 บาท

หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยนสัปดาห์นี้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 34.4065 บาท

2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ

1) กัมพูชา

สหพันธ์ข้าวแห่งกัมพูชา รายงานผลการส่งออกข้าวขัดสีของกัมพูชาในปี 2567 โดยมีปริมาณการส่งออกทั้งสิ้น 651,522 ตัน มูลค่ารวม 491 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 16,894 ล้านบาท) แบ่งเป็นข้าวหอมร้อยละ 76.15 ข้าวขาวร้อยละ 18.7 ข้าวนึ่งร้อยละ 3.1 ข้าวอินทรีย์ร้อยละ 1.78 และข้าวประเภทอื่นๆ ร้อยละ 0.27 ทั้งนี้ กัมพูชามีบริษัทผู้ส่งออกข้าวขัดสี จำนวน 57 แห่ง ซึ่งดำเนินการส่งออกไปยัง 68 ประเทศและภูมิภาค

โดยจีนถือเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของกัมพูชา มีปริมาณการส่งออก 117,925 ตัน มูลค่ารวม 75.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2,601 ล้านบาท)

ที่มา สำนักข่าวซินหัว

หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยนสัปดาห์นี้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 34.4065 บาท

2) ฟิลิปปินส์ - ปากีสถาน

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 นาย Francisco P. Tiu Laurel, Jr. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์เข้าพบ Dr. Imtiaz Kazi เอกอัครราชทูตปากีสถานประจำกรุงมะนิลา เพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาสในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าด้านการเกษตรระหว่างฟิลิปปินส์และปากีสถาน ในการนี้ เอกอัครราชทูตปากีสถานได้

เน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของปากีสถานในฐานะผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของฟิลิปปินส์ รองจากเวียดนามและไทย โดยได้เสนอการจัดหาข้าวปริมาณ 1 ล้านตันต่อปี ให้แก่ฟิลิปปินส์ในราคาที่แข่งขันได้ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่สะท้อนถึงการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มการนำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตปากีสถานยังได้เสนอให้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) อย่างเป็นทางการเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้าด้านการเกษตรระหว่างสองประเทศ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ได้ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว และจะสรุปข้อตกลง ภายในเดือนมิถุนายน 2568

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงการขยายการส่งออกผลไม้สด เช่น มะม่วง กล้วย และทุเรียน ไปยังตลาดปากีสถาน รวมถึงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีเกษตร เช่น ระบบชลประทาน เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว และการรับรองฮาลาล โดยการเจรจาครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของทั้งสองประเทศในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าด้านเกษตร

ที่มา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร


แท็ก ข้อมูล  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ