สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์ 13 - 19 มกราคม 2568
- นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้คำสั่งด่วนที่สุดให้ปิดโรงงานน้ำตาลของบริษัท น้ำตาลไทยอุดรธานี จำกัด และปิดโรงไฟฟ้าของบริษัท ไทยอุดรธานี เพาเวอร์ จำกัด โดยคำสั่งการดังกล่าว เป็นผลจากทีมตรวจการกระทรวงฯ และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี บูรณาการร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานน้ำตาลของบริษัท
โดยพบว่า บริษัท น้ำตาลไทยอุดรธานี จำกัด มีการรับอ้อยเผาเข้าหีบสะสมสูงสุดจากโรงงานน้ำตาลทั้งหมด 58 โรงงาน คิดเป็นปริมาณกว่า 410,000 ตัน หรือร้อยละ 43.11 ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด เทียบเท่าการเผาป่ากว่า 41,000 ไร่ อีกทั้งยังพบว่า บริษัท ไทยอุดรธานี เพาเวอร์ จำกัด ประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำส่งให้กับโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี ได้ฝ่าฝืนกฎหมายความปลอดภัยมีการประกอบกิจการในสภาพที่อาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงถึงชีวิตและทรัพย์สินของพนักงานและประชาชนที่อยู่อาศัยใกล้เคียงกับโรงงาน จึงมีคำสั่งด่วนที่สุดให้บริษัทฯ ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายทั้งหมด จนกว่าจะปรับปรุงแก้ไขโรงงานให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเข้มงวด (ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ)
- วันที่ 16 มกราคม 2567 นาย Aden Duale เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาการเกษตรและปศุสัตว์ของเคนยา ได้มีการออกประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่อง การจัดเก็บภาษีน้ำตาล จากทั้งน้ำตาลทรายภายในประเทศและการนำเข้าน้ำตาลทราย ในอัตราร้อยละ 4 โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งจะช่วยให้ราคาน้ำตาลทรายเพิ่มขึ้น หลังจากที่ต้องเผชิญกับการลดลงของราคาน้ำตาลทรายภายในประเทศอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา การจัดเก็บภาษีดังกล่าวเป็นดำเนินการตามมาตรา 40 (1) ของพระราชบัญญัติน้ำตาลทรายของเคนยา ปี 2567 ซึ่งได้มีการประกาศเมื่อ 3 เดือนก่อน สาระสำคัญ คือ โรงงานน้ำตาลทรายในพื้นที่ต้องส่งเงินจากการจัดเก็บภาษีดังกล่าวเข้าคณะกรรมการน้ำตาลทรายเคนยา (Kenya Sugar Board: KSB) และ KSB จะดำเนินการจัดเก็บภาษีนำเข้าน้ำตาลทรายโดยตรงจากผู้ประกอบการนำเข้าน้ำตาลทราย
ทั้งนี้ รายได้ซึ่งมาจากการเก็บภาษีน้ำตาลทรายนี้ กองทุนน้ำตาลทรายของเคนยาจะนำมาสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ภายในอุตสาหกรรมและการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำตาลทราย เช่น การพัฒนาการผลิตอ้อยโรงงาน (ร้อยละ 40) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับพื้นที่ที่มีการผลิตอ้อยโรงงาน (ร้อยละ 15) การบริหารจัดการของ KSB (ร้อยละ 10) การบริหารจัดการของสถาบันเกษตรกรชาวไร่อ้อย (ร้อยละ 5) รวมถึงการวิจัยและพัฒนา (ร้อยละ 15) ของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของเคนยา (ที่มา: chinimandi.com)
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร