สศก. ร่วมเวที PPFS ณ สาธารณรัฐเกาหลี ผลักดันความมั่นคงอาหารภายใต้เอเปคพร้อมชูแผนรับมือสภาพภูมิอากาศ นโยบายประกันภัยพืชผลและการขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการเครื่องจักรกลทางการเกษตร เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกร
นางสาวกาญจนา ขวัญเมือง รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยภายหลังเข้าร่วมการประชุมหุ้นส่วนเชิงนโยบายด้านความมั่นคงอาหาร (Policy Partnership on Food Security: PPFS) ภายใต้กรอบเอเปค ระหว่างวันที่ 4 - 6 มีนาคม 2568 ณ เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจเจ้าภาพของการประชุมในปีนี้ โดยจัดขึ้นภายใต้หัวข้อหลัก เสริมสร้างวันพรุ่งนี้ที่ยั่งยืน (Building a Sustainable Tomorrow) มุ่งเน้นการดำเนินงานใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ ความเชื่อมโยง (Connect) การสร้างสรรค์ (Innovate) และความรุ่งเรือง (Prosper) รวมถึงเน้นการใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก
การเข้าร่วมประชุม PPFS ครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุม PPFS ปี 2568 จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ (1) ถ้อยแถลงรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปคปี 2568 โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อน นวัตกรรมในระบบเกษตรและอาหาร (Innovation in Agri-food Systems) เพื่อส่งเสริมความมั่งคั่งร่วมกัน (2) การปรับปรุงขอบเขตงานของกรอบ PPFS (Terms of Reference of PPFS) โดยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ผ่านบทบาทของ ABAC (APEC Business Advisory Council) ตลอดห่วงโซ่คุณค่าอาหารตั้งแต่การผลิต แปรรูป การกระจายสินค้า การค้า และการลงทุน และ (3) รายงานการทบทวนระยะครึ่งแผน (Mid-term Review) สำหรับการดำเนินงานของแผนปฏิบัติการภายใต้แผนงานความมั่นคงอาหารมุ่งสู่ปี พ.ศ. 2573 เพื่อประเมินความก้าวหน้าในการดำเนินงานของแต่ละกิจกรรม และจัดทำรายงานการประเมินผล ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลสำคัญเพื่อเตรียมความพร้อมการทบทวนฉบับสมบูรณ์ในปี 2573
โอกาสนี้ รองเลขาธิการ สศก. ได้กล่าวถึงการดำเนินงานของไทยในการเสริมสร้างความมั่นคงอาหารและรับมือต่อความท้าทายในปัจจุบัน ได้แก่ การรับมือกับสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรผ่านแผนปฏิบัติการด้านการเกษตรเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2566 - 2570 และมาตรการที่เกี่ยวข้องและแสดงความมุ่งมั่นของภาคการเกษตรไทยที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามความตกลงปารีส อีกทั้งยังได้ชูโครงการประกันภัยพืชผล ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยเหลือเกษตรกรชาวไทยที่เป็นผู้ปลูกข้าวและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ให้สามารถรับมือต่อความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติในปัจจุบัน รวมทั้งได้กล่าวถึงการริเริ่มนโยบายขึ้นทะเบียนเกษตรกรเป็นผู้ให้บริการเครื่องจักรกลทางการเกษตร ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างโอกาสและรายได้ให้แก่เกษตรกร ช่วยลดต้นทุน และนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของผลผลิตทางการเกษตรของไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ รองประธานสภาหอการค้าไทย (นายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์) ผู้แทนภาคเอกชนที่เข้าร่วมการประชุม PPFS ในครั้งนี้ ได้กล่าวสนับสนุนบทบาทความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับสภาหอการค้าไทยในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตรและอาหารของไทย และตอบสนองนโยบายสู่การเป็นครัวของโลก ผ่านกลไกความร่วมมือต่าง ๆ อาทิ คณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย การพัฒนาระบบข้อมูลและการกระจายสินค้าทางการเกษตร การสนับสนุนการผลิตวัตถุดิบคุณภาพและส่งเสริมการเกษตรเชิงนวัตกรรม เพื่อรองรับอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตของไทย การดำเนินโครงการธนาคารอาหารและการผลักดันฟาร์มปศุสัตว์ไทยสู่มาตรฐานสากล และการยกระดับมูลค่าเพิ่มให้แก่การผลิตสินค้าเกษตร
ทั้งนี้ ถ้อยแถลงรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปคปี 2568 จะมีการรับรองในที่ประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2568 ณ เมืองอินชอน สาธารณรัฐเกาหลี โดยถ้อยแถลงดังกล่าวจะให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนนวัตกรรมในระบบเกษตรและอาหาร เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงอาหารในเอเปคร่วมกัน
*****************************************
ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์ / ข้อมูล : กองเศรษฐกิจการเกษตรระหว่างประเทศ
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร