สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เร่งเครื่องจัดสัมมนาเรื่องข้าวสังข์หยด 3 มิถุนายน นี้ ที่พัทลุง เพื่อให้เกษตรกรปรับกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์การตลาดที่เปลี่ยนแปลงในอนาคต เผยพระราชินีมีพระราชดำริข้าวสังข์หยดเป็นข้าวที่ดีมีประโยชน์ ควรให้มีการฟื้นฟูและการปลูกให้เพิ่มมากขึ้น
นางสุภาพร พิมลลิขิต รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานจัดงานประชุมสัมมนา “โครงการนำร่องพื้นที่เหมาะสมเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาการผลิตข้าวสังข์หยด” เปิดเผยว่า การสัมมนาดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้เกิดการพัฒนาและการเชื่อมโยงทั้งด้านการผลิต การตลาด การแปรรูป จนถึงการส่งออกอย่างครบวงจร ทราบถึงสถานการณ์การตลาดของข้าวสังข์หยดเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการผลิต รวมทั้งถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการ ด้านเทคโนโลยี และด้านการค้าการลงทุนให้เกษตรกร ผู้ผลิต และผู้สนใจ ตลอดจนเพื่อปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นเมือง และสร้างความสัมพันธ์อันดีในชุมชน
สำหรับข้าวสังข์หยด (Sungyod) นั้นเป็นข้าวพื้นเมืองดั้งเดิมของจังหวัดพัทลุง จัดเป็นกลุ่มข้าวที่มีสีแดงหรือม่วง ในอดีตมักเป็นการปลูกเพื่อรับประทานภายในครอบครัว เพื่อรับแขก หรือนำไปกราบคาราวะผู้ใหญ่ในวันสำคัญต่าง ๆ จนกระทั่งในปี พ.ศ.2546 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้มีพระราชดำริว่า ข้าวสังข์หยดเป็นข้าวที่มีรสดีมีประโยชน์ ควรให้มีการฟื้นฟูการปลูกเพิ่มมากขึ้น ดั้งนั้นหน่วนงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ดำเนินการสนับสนุน ส่งเสริม เพื่อสนองพระราชดำริของพระองค์ท่านมาโดยตลอด ซึ่งข้าวสังข์หยดเป็นข้าวที่มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าข้าวพันธุ์อื่น ๆ คือ มีกากใยอาหารสูง ทำให้มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย มีวิตามินอี ช่วยชะลอความแก่ มีโปรตีน ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัส ช่วยในการบำรุงโลหิต บำรุงร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันโรคความจำเสื่อม และยังมีสารแอนติออกซิแดนพวก oryzanol และ gama aminbutyric acid (GABA) ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเป็นมะเร็ง
จากประโยชน์ดังกล่าว ทำให้ข้าวสังข์หยดเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมากในปัจจุบัน แม้ว่าที่ผ่านมาหน่วยงานต่าง ๆ ได้ส่งเสริมเกษตรกรให้มีการปลูกเพิ่มขึ้นแล้ว แต่ยังพบปัญหาอุปสรรคหลายประการ เช่น เมล็ดพันธุ์มีไม่เพียงพอ คุณภาพและความเหมาะสมของดิน ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่ำกว่าข้าวพันธุ์อื่น เครื่องเก็บเกี่ยวและโรงสีที่มีการใช้ร่วมกับข้าวพันธุ์อื่นทำให้มีการปนเปื้อน การขาดการส่งเสริมการขาย เป็นต้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และให้เกษตรกรหันมาปลูกข้าวสังข์หยดมากขึ้น รวมทั้งร่วมกันพัฒนาคุณภาพให้เป็นที่ยอมรับต่อไป สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จึงได้จัดสัมมนา“โครงการนำร่องพื้นที่เหมาะสมเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาการผลิตข้าวสังข์หยด” ในวันอังคารที่ 3 มิถุนายน 2551 เวลา 08.30 น. — 16.30 น. ณ ห้องประชุมมหาวิทยาลัยทักษิณ จังหวัดพัทลุง จึงขอเรียนเชิญสื่อมวลชน และผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตร ส่วนแผนพัฒนาการเกษตรพื้นที่เศรษฐกิจเฉพาะ โทร.0 - 2940 - 6673 -4 และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 9 จังหวัดสงขลา โทร.0-7431 — 2996 ในวันและเวลาราชการ
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
นางสุภาพร พิมลลิขิต รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานจัดงานประชุมสัมมนา “โครงการนำร่องพื้นที่เหมาะสมเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาการผลิตข้าวสังข์หยด” เปิดเผยว่า การสัมมนาดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้เกิดการพัฒนาและการเชื่อมโยงทั้งด้านการผลิต การตลาด การแปรรูป จนถึงการส่งออกอย่างครบวงจร ทราบถึงสถานการณ์การตลาดของข้าวสังข์หยดเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการผลิต รวมทั้งถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการ ด้านเทคโนโลยี และด้านการค้าการลงทุนให้เกษตรกร ผู้ผลิต และผู้สนใจ ตลอดจนเพื่อปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นเมือง และสร้างความสัมพันธ์อันดีในชุมชน
สำหรับข้าวสังข์หยด (Sungyod) นั้นเป็นข้าวพื้นเมืองดั้งเดิมของจังหวัดพัทลุง จัดเป็นกลุ่มข้าวที่มีสีแดงหรือม่วง ในอดีตมักเป็นการปลูกเพื่อรับประทานภายในครอบครัว เพื่อรับแขก หรือนำไปกราบคาราวะผู้ใหญ่ในวันสำคัญต่าง ๆ จนกระทั่งในปี พ.ศ.2546 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้มีพระราชดำริว่า ข้าวสังข์หยดเป็นข้าวที่มีรสดีมีประโยชน์ ควรให้มีการฟื้นฟูการปลูกเพิ่มมากขึ้น ดั้งนั้นหน่วนงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ดำเนินการสนับสนุน ส่งเสริม เพื่อสนองพระราชดำริของพระองค์ท่านมาโดยตลอด ซึ่งข้าวสังข์หยดเป็นข้าวที่มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าข้าวพันธุ์อื่น ๆ คือ มีกากใยอาหารสูง ทำให้มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย มีวิตามินอี ช่วยชะลอความแก่ มีโปรตีน ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัส ช่วยในการบำรุงโลหิต บำรุงร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันโรคความจำเสื่อม และยังมีสารแอนติออกซิแดนพวก oryzanol และ gama aminbutyric acid (GABA) ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเป็นมะเร็ง
จากประโยชน์ดังกล่าว ทำให้ข้าวสังข์หยดเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมากในปัจจุบัน แม้ว่าที่ผ่านมาหน่วยงานต่าง ๆ ได้ส่งเสริมเกษตรกรให้มีการปลูกเพิ่มขึ้นแล้ว แต่ยังพบปัญหาอุปสรรคหลายประการ เช่น เมล็ดพันธุ์มีไม่เพียงพอ คุณภาพและความเหมาะสมของดิน ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่ำกว่าข้าวพันธุ์อื่น เครื่องเก็บเกี่ยวและโรงสีที่มีการใช้ร่วมกับข้าวพันธุ์อื่นทำให้มีการปนเปื้อน การขาดการส่งเสริมการขาย เป็นต้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และให้เกษตรกรหันมาปลูกข้าวสังข์หยดมากขึ้น รวมทั้งร่วมกันพัฒนาคุณภาพให้เป็นที่ยอมรับต่อไป สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จึงได้จัดสัมมนา“โครงการนำร่องพื้นที่เหมาะสมเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาการผลิตข้าวสังข์หยด” ในวันอังคารที่ 3 มิถุนายน 2551 เวลา 08.30 น. — 16.30 น. ณ ห้องประชุมมหาวิทยาลัยทักษิณ จังหวัดพัทลุง จึงขอเรียนเชิญสื่อมวลชน และผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตร ส่วนแผนพัฒนาการเกษตรพื้นที่เศรษฐกิจเฉพาะ โทร.0 - 2940 - 6673 -4 และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 9 จังหวัดสงขลา โทร.0-7431 — 2996 ในวันและเวลาราชการ
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-