สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร แจง ปริมาณไข่ไก่ปีนี้เพิ่มสูงขึ้น มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากในระยะนี้ ขณะที่การบริโภคลดลง เนื่องจากโรงเรียนปิดเทอมและเป็นช่วงเทศกาลกินเจ ทำให้อาจเกิดปัญหาราคาตกต่ำ ควรเร่งรณรงค์การบริโภคไข่ไก่และระบายผลผลิตส่วนเกินไปตลาดต่างประเทศ รวมถึงปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงก่อนกำหนดเพื่อลดปริมาณผลผลิต
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สศก. ได้คาดคะเนผลผลิตไข่ไก่ ในปี 2551 ว่ามีปริมาณ 9,362 ล้านฟอง เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 4.14 เนื่องจากธุรกิจการเลี้ยงไก่ไข่ได้ขยายตัวค่อนข้างมาก การเลี้ยงได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วทั้งวิธีการเลี้ยงและขนาดฟาร์ม ซึ่งหลังภาวะการระบาดของโรคไข้หวัดนก (Bird Flu) ในปี 2547 ได้มีการปรับเปลี่ยนการเลี้ยงจากโรงเรือนระบบเปิดเป็นโรงเรือนระบบปิด (Evaporative Cooling System หรือ EVAP) เพื่อให้ได้มาตรฐานฟาร์มตามที่กรมปศุสัตว์กำหนด โดยผลผลิตไข่ไก่ร้อยละ 98 ใช้บริโภคภายในประเทศ การส่งออกเป็นเพียงการระบายผลผลิตส่วนเกินเท่านั้น ตลาดหลักที่สำคัญคือ ฮ่องกง สำหรับช่วงเดือน มกราคม-กรกฎาคม 2551 ส่งออกไข่ไก่สด จำนวน 206.31 ล้านฟอง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 46.77
สำหรับไข่ไก่ นับเป็นสินค้าที่มีความผันผวนของราคาค่อนข้างสูง มักเกิดปัญหาราคาตกต่ำในช่วงปลายปีที่ผลผลิตออกมาก โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลกินเจและสถานศึกษาต่างๆ ปิดภาคเรียน ทำให้ความต้องการบริโภคลดลง การดำเนินที่ผ่านมาเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยแทรกแซงตลาดในกรณีราคาไข่ไก่ตกต่ำ โดยใช้เงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (กชก.) รับซื้อไข่ไก่ส่วนเกินเก็บสต็อกเข้าห้องเย็น พร้อมทั้งขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงรายใหญ่ปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงออกก่อนกำหนดเพื่อลดปริมาณผลผลิต
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) ได้มีมติให้ควบคุมปริมาณการนำเข้าระดับปู่-ย่าพันธุ์ (GP) และพ่อ-แม่พันธุ์ (PS) ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละปี รวมทั้งจดทะเบียนผู้เลี้ยงไก่ไข่ ผู้จำหน่ายไข่ไก่ เพื่อแก้ไขปัญหาไข่ไก่ทั้งระบบ สำหรับกรณีผลผลิตเกินความต้องการได้ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงรายใหญ่ปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงก่อนกำหนดเพื่อลดปริมาณผลผลิต พร้อมกับการรณรงค์ให้ประชาชนบริโภคไข่ไก่อย่างต่อเนื่อง และเร่งระบายผลผลิตส่วนเกินออกต่างประเทศเพื่อรักษาระดับราคาไข่ไก่ในประเทศ
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สศก. ได้คาดคะเนผลผลิตไข่ไก่ ในปี 2551 ว่ามีปริมาณ 9,362 ล้านฟอง เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 4.14 เนื่องจากธุรกิจการเลี้ยงไก่ไข่ได้ขยายตัวค่อนข้างมาก การเลี้ยงได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วทั้งวิธีการเลี้ยงและขนาดฟาร์ม ซึ่งหลังภาวะการระบาดของโรคไข้หวัดนก (Bird Flu) ในปี 2547 ได้มีการปรับเปลี่ยนการเลี้ยงจากโรงเรือนระบบเปิดเป็นโรงเรือนระบบปิด (Evaporative Cooling System หรือ EVAP) เพื่อให้ได้มาตรฐานฟาร์มตามที่กรมปศุสัตว์กำหนด โดยผลผลิตไข่ไก่ร้อยละ 98 ใช้บริโภคภายในประเทศ การส่งออกเป็นเพียงการระบายผลผลิตส่วนเกินเท่านั้น ตลาดหลักที่สำคัญคือ ฮ่องกง สำหรับช่วงเดือน มกราคม-กรกฎาคม 2551 ส่งออกไข่ไก่สด จำนวน 206.31 ล้านฟอง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 46.77
สำหรับไข่ไก่ นับเป็นสินค้าที่มีความผันผวนของราคาค่อนข้างสูง มักเกิดปัญหาราคาตกต่ำในช่วงปลายปีที่ผลผลิตออกมาก โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลกินเจและสถานศึกษาต่างๆ ปิดภาคเรียน ทำให้ความต้องการบริโภคลดลง การดำเนินที่ผ่านมาเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยแทรกแซงตลาดในกรณีราคาไข่ไก่ตกต่ำ โดยใช้เงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (กชก.) รับซื้อไข่ไก่ส่วนเกินเก็บสต็อกเข้าห้องเย็น พร้อมทั้งขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงรายใหญ่ปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงออกก่อนกำหนดเพื่อลดปริมาณผลผลิต
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) ได้มีมติให้ควบคุมปริมาณการนำเข้าระดับปู่-ย่าพันธุ์ (GP) และพ่อ-แม่พันธุ์ (PS) ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละปี รวมทั้งจดทะเบียนผู้เลี้ยงไก่ไข่ ผู้จำหน่ายไข่ไก่ เพื่อแก้ไขปัญหาไข่ไก่ทั้งระบบ สำหรับกรณีผลผลิตเกินความต้องการได้ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงรายใหญ่ปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงก่อนกำหนดเพื่อลดปริมาณผลผลิต พร้อมกับการรณรงค์ให้ประชาชนบริโภคไข่ไก่อย่างต่อเนื่อง และเร่งระบายผลผลิตส่วนเกินออกต่างประเทศเพื่อรักษาระดับราคาไข่ไก่ในประเทศ
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-