ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร: ยางพารา

1. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาภายในประเทศ

นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมแก้ไขปัญหาวิกฤตยางพาราตกต่ำ ว่าในเบื้องต้นพบสาเหตุมาจากวิกฤตทางการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงภาคเศรษฐกิจการเกษตรส่งผลให้ความต้อง การใช้ยางพาราเพื่ออุตสาหกรรมในบางประเทศเกิดการชะลอตัว รวมถึงสภาพคล่องและความไม่แน่นอนทางการเงินในแต่ละประเทศ ทั้งราคาน้ำมันดิบ ที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมาทำให้ผู้ประกอบการหันไปใช้ยางสังเคราะห์ซึ่งมีราคาถูกกว่ายางธรรมชาติมากขึ้น โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมวิชาการ เกษตรตรวจสต๊อกทั่วประเทศ รวมถึงเร่งสำรวจข้อมูลของส่วนต่างราคายางที่หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่าเกษตรกรอาจถูกเอาเปรียบจากผู้รับซื้อ ในการกำหนดราคาไม่ต่ำกว่าราคาการซื้อขายล่วงหน้า โดยจะมีการเชิญกลุ่มผู้ประกอบการเพื่อหารือและสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว

ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ

1. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 45.14 บาท ลดลงจาก 53.99 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 8.85 บาท หรือร้อยละ 16.39

2. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 2 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.64 บาท ลดลงจาก 53.49 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 8.85 บาท หรือร้อยละ 16.55

3. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.14 บาท ลดลงจาก 52.99 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 8.85 บาท หรือร้อยละ 16.70

4. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 4 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 43.65 บาท ลดลงจาก 52.01 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 8.36 บาท หรือร้อยละ 16.07

5. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 5 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 42.90 บาท ลดลงจาก 51.26 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 8.36 หรือร้อยละ 16.31

6. ยางแผ่นดิบคละราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 43.13 บาท ลดลงจาก 51.75 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 8.62 บาท หรือร้อยละ 16.66

7. ยางก้อนคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 18.10 บาท ลดลงจาก 27.99 บาท ของสัปดาห์ที่ แล้วกิโลกรัมละ 9.89 บาท หรือร้อยละ 35.33

8. เศษยางคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 15.76 บาท ลดลงจาก 25.50 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 9.74 บาท หรือร้อยละ 38.20

9. น้ำยางข้นคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 38.44 บาท ลดลงจาก 52.53 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 14.09 บาท หรือร้อยละ 26.82

ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. ซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนพฤศจิกายน 2551

ณ ท่าเรือกรุงเทพ

1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 63.71 บาท ลดลงจาก 65.55 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.84 บาท หรือร้อยละ 2.81

2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 62.56 บาท ลดลงจาก 64.40 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.84 บาท หรือร้อยละ 2.86

3. น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 42.28 บาท ลดลงจาก 44.40 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.12 บาท หรือร้อยละ 4.77

ณ ท่าเรือสงขลา

1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 63.46 บาท ลดลงจาก 65.30 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.84 บาท หรือร้อยละ 2.82

2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 62.31 บาท ลดลงจาก 64.15 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.84 บาท หรือร้อย 2.87

3. น้ำยางข้นราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 42.03 บาท ลดลงจาก 44.15 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.12 บาท หรือร้อยละ 4.80

2. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาในตลาดต่างประเทศ

ในปี 2551 อินโดนีเซียส่งออกยางพาราเพิ่มจาก 2.4 ล้านตัน ของปี 2550 ร้อยละ 4 โดยลดลงจากที่ได้พยากรณ์ไว้เดิม คือจะมีการส่งออกเพิ่มถึงร้อยละ 7 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และความต้องการใช้ยางในอุตสาหกรรมก็ลดลงด้วย ในปี 2550 ผลผลิตยางพาราของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และมีการส่งออกไปจีนเพียงประเทศเดียวถึงร้อยละ 40 (470,000 ตัน) นักวิเคราะห์กล่าวว่า ในปี 2563 อินโดนีเซียจะสามารถผลิตยางได้ใกล้เคียงกับไทยและคาดว่าจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของปัจจุบัน ( ประมาณ 4.12 ล้านตัน ) ส่วนของไทยจะมีประมาณ 3.68 ล้านตันในปีเดียวกัน

ราคาต่างประเทศซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนพฤศจิกายน 2551

ยางแผ่นรมควันชั้น 3

ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์เฉลี่ยกิโลกรัมละ 174.13 เซนต์สหรัฐ ( 59.41 บาท) ลดลงจาก 179.60 เซนต์สหรัฐ (60.99 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 5.47 เซนต์สหรัฐหรือ ร้อยละ 30.46

ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดโตเกียว เฉลี่ยกิโลกรัมละ 184.10 เยน ( 61.81 บาท) สูงขึ้นจาก 172.60 เยน(58.61 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 11.50 เยน หรือร้อยละ 6.66

--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 20-26 ตุลาคม 2551--