ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร: ยางพารา

1. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาภายในประเทศ

นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากการที่ไทยได้เสนอต่อที่ประชุมยางโลกซึ่งประกอบด้วยประเทศ สมาชิกคือไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยประเทศไทยมีนโยบายลดพื้นที่ปลูกยาง 4 แสนไร่ เพื่อหันมาปลูกปาล์มนั้น ส่งผลให้สาธารณรัฐประชาชน จีน ซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ โดยแต่ละปีจะมีการนำเข้ายางพาราจากประเทศไทยประมาณ 830,000 ตัน จากปริมาณการส่งออกทั้งประเทศ 2,700,000 ตัน หรือ 1 ใน 3 เกิดความไม่แน่ใจ พร้อมทั้งเตรียมหาแหล่งรับซื้อที่ใหม่โดยมุ่งไปที่ประเทศเวียดนาม ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จึงเดินทางเข้าพบ กับรัฐมนตรีเกษตรจีนที่กำกับดูแลยาง และสมาคมอุตสาหกรรมยางจีนที่ขณะนี้กำลังประสบปัญหาการซื้อวัตถุดิบป้อนโรงงาน ในการเจรจาดังกล่าวได้ข้อ สรุปว่า สาเหตุที่ทำให้ราคาผันผวนเพราะมีการเก็งราคา รวมทั้งซื้อขายลมโดยไม่มีการส่งมอบจริง และยังสร้างความมั่นใจว่าปริมาณผลผลิตยางไทยยัง มีคุณภาพ มีเพียงพอต่อความต้องการใช้เพราะไทยได้ส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่แถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือปลูกยางเพิ่มขึ้นอีก 2.5 ล้านไร่ ซึ่งผล ผลิตจะเริ่มทยอยออกสู่ตลาดในปี 2554 และเมื่อผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดจะไม่มีปัญหาด้านราคาอย่างแน่นอน เพราะได้เตรียมแหล่งรับซื้อผลผลิต ไว้ 2 จุด ซึ่งอยู่ ในจังหวัดบุรีรัมย์ และหนองคาย

ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ

1. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 41.55 บาท ลดลงจาก 54.09 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 12.54 บาท หรือร้อยละ 23.18

2. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 2 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 41.05 บาท ลดลงจาก 53.59 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 12.54 บาท หรือร้อยละ 23.40

3. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 40.55 บาท ลดลงจาก 53.09 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 12.54 บาท หรือร้อยละ 23.62

4. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 4 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 39.76 บาท ลดลงจาก 52.15 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 12.39 บาท หรือร้อยละ 23.76

5. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 5 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 39.00 บาท ลดลงจาก 51.40 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 12.40 หรือ ร้อยละ 24.12

6. ยางแผ่นดิบคละราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 38.96 บาท ลดลงจาก 52.23 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 13.27 บาท หรือ ร้อยละ 25.41

7. ยางก้อนคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 18.74 บาท ลดลงจาก 23.12 บาท ของสัปดาห์ที่ แล้วกิโลกรัมละ 4.38 บาท หรือ ร้อยละ 18.94

8. เศษยางคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 16.47 บาท ลดลงจาก 21.22 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 4.75 บาท หรือ ร้อยละ 22.38

9. น้ำยางข้นคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 39.04 บาท ลดลงจาก 53.43 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 14.39 บาท หรือ ร้อยละ 26.93

ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. ซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคม 2551

ณ ท่าเรือกรุงเทพ

1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 55.75 บาท ลดลงจาก 63.83 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 8.08 บาท หรือ ร้อยละ 12.66

2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 54.60 บาท ลดลงจาก 62.68 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 8.08 บาท หรือ ร้อยละ 12.89

3. น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 41.38 บาท ลดลงจาก 46.20 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 4.82 บาท หรือ ร้อยละ 10.43

ณ ท่าเรือสงขลา

1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 55.50 บาท ลดลงจาก 63.58 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 8.08 บาท หรือร้อยละ 12.71

2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 54.35 บาท ลดลงจาก 62.43 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 8.08 บาท หรือร้อย 12.94

3. น้ำยางข้นราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 41.13 บาท ลดลงจาก 45.95 บาท ของสัปดาห์ที่แล้ว กิโลกรัมละ 4.82 บาท หรือ ร้อยละ 10.49

2. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาในตลาดต่างประเทศ

กระทรวงเกษตรของอินโดนีเซีย คาดว่าผลผลิตยางพาราของอินโดนีเซียในปี 2551 มีปริมาณ 2.84 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 2.76 ล้านตัน ของปีที่แล้วร้อยละ 2.80 โดยผลผลิตที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากพื้นที่เปิดกรีดยางใหม่ และอีกส่วนหนึ่งมาจากการเพิ่มการกรีดยางของเกษตรกรที่ เพิ่มขึ้นตามราคายาง ซึ่งเกษตรกรเปรียบเทียบยางพาราเสมือน ATM เมื่อราคายางสูงขึ้นจึงเร่งกรีดยางมากขึ้น เพื่อรายได้ที่เพิ่มขึ้น อินโดนีเซียเป็นประเทศผู้ผลิตยางรายใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากไทย โดยมีผลผลิตยางคิดเป็นร้อยละ 30 ของยางทั้งโลก ซึ่งปีที่แล้วผลผลิตยาง ของโลกมีทั้งสิ้น 9.69 ล้านตัน

ราคาต่างประเทศซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคม 2551

ยางแผ่นรมควันชั้น 3

ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์เฉลี่ยกิโลกรัมละ 136.40 เซนต์สหรัฐ (47.82 บาท) ลดลงจาก 167.28 เซนต์สหรัฐ (58.22 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 30.88 เซนต์สหรัฐหรือร้อยละ 18.46

ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดโตเกียวเฉลี่ยกิโลกรัมละ 136.12 เยน (47.72 บาท) ลดลงจาก 143.76 เยน (51.66 บาท) ใน สัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 7.64 เยน หรือร้อยละ 5.31

--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 24-30 พฤศจิกายน 2551--