สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 8 แนะเกษตรกรผู้ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น ใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นเวลานานหลายวัน โดยหาทางขุดร่องระบายน้ำ ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ เพิ่มออกซิเจนให้แก่รากพืชด้วยการพรวนดิน และหาสารป้องกันเชื้อราราดบริเวณโคนต้นเพื่อป้องกันโรครากเน่า
นายมนตรี เมืองพรหม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 8 (สศข.8) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ที่ได้รับผลกระทบจากหย่อมความกดอากาศต่ำจากประเทศจีนและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตลอดจนพายุโซนร้อน “นูล” ซึ่งทำให้เกิดอุทกภัยอย่างหนัก แก่แหล่งปลูกไม้ผล ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2551 เป็นต้นมา โดยเฉพาะจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังแก่สวนผลไม้เป็นเวลานานหลายวัน อาจทำให้ได้รับความเสียหายได้ ซึ่งชาวสวนผลไม้ ควรดูแลไม้ผลหลังน้ำท่วมด้วยการหาทางระบายน้ำออกจากบริเวณนั้นโดยเร็วที่สุด เพื่อรากพืชจะได้รับอากาศ โดยการ ขุดร่องระบายน้ำ ให้น้ำไหลออกจากพื้นที่สวนให้มากที่สุด หากมีดินหรือทรายที่ถูกน้ำพัดพาไป ทับถมในแปลงไม้ผล ควรทำการขุดหรือปาดออกจากโคนต้นไม้ผล พร้อมให้ตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง เป็นการลดการคายน้ำ และเป็นการเร่งให้ไม้ผลแตกใบใหม่เร็วขึ้น หากกำลังติดผลให้ปลิดผลออกบ้าง เพื่อป้องกันต้นไม้ผลทรุดโทรม
นอกจากนี้ หลังน้ำท่วมขณะดินยังเปียกอยู่ เจ้าของสวนและสัตว์เลี้ยงไม่ควรเข้าไปเหยียบย่ำโดยเด็ดขาด ตลอดจนไม่ควรนำเครื่องจักรกลหนักใดๆ เข้าไปในสวนเพราะจะทำให้ดินเกิดการอัดแน่น ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการไหลซึมของน้ำ รวมทั้งกระทบกระเทือนต่อระบบรากพืช
นายมนตรี กล่าวต่อไปอีกว่า ขณะน้ำท่วมราก ต้นไม้ผลจะไม่สามารถดูดกินอาหารจากดินได้ เพื่อช่วยให้ไม้ผลฟื้นตัวเร็วขึ้น ควรมีการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ ด้วยสูตร 12-12-12 หรือ 12-9-6 หรือปุ๋ยสูตร 21-21-21 และ 16-21-27 ละลายน้ำฉีดพ่น ด้วยการเติมสารจับใบหรือสารป้องกันแมลงตามความจำเป็นประมาณ 2-3 ครั้ง นอกจากนั้น ควรจะเพิ่มออกซิเจนให้แก่รากพืชด้วยการพรวนดิน เมื่อดินแห้งเป็นปกติแล้ว พร้อมกับหาสารป้องกันเชื้อราทาบริเวณโคนต้นหรือราดโคนต้น เพื่อป้องกัน โรครากเน่าและโคนเน่า นอกจากนั้นอาจจะปรับปรุงสภาพดินให้เป็นด่างเล็กน้อยด้วยการโรยปูนขาวหรือโดโลไมท์ เพื่อให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชด้วย ซึ่งจะทำให้ไม้ผลรอดพ้นจากความเสียหายได้
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--