ไทยฉวยบทเด่นในเวที CFC ชิงธงริเริ่มโครงการสนับสนุนประเทศผู้ผลิตพืชอาหารและพืชพลังงาน

ข่าวทั่วไป Tuesday January 6, 2009 13:36 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สศก. ร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนร่วมเพื่อสินค้าโภคภัณฑ์ (Common Fund for Commodity: CFC) ครั้งที่ 20 สาธารณรัฐแทนซาเนีย วันที่ 25-26 พ.ย. ที่ผ่านมา เผย ประเทศไทยเตรียมเข็นข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับเงินสนับสนุนด้านการเงิน หวังช่วยเหลือประเทศแถบเอเชียให้ได้รับประโยชน์จากพืชอาหารและพลังงานมากขึ้น

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยภายหลัง สำนักเศรษฐกิจการเกษตรส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุน CFC ครั้งที่ 20 ณ เมืองแซนซิบาร์ สาธารณรัฐแทนซาเนีย ซึ่งเป็นสถาบันระหว่างประเทศด้านการเงิน ภายใต้กรอบการดำเนินงานขององค์การสหประชาชาติ โดยเริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปี 1989 ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 107 ประเทศ และ 9 องค์กร โดยจะให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกทั้งในรูปของเงินกู้และเงินให้เปล่า โดยให้ความสำคัญในการพัฒนาสินค้าเกษตรที่มีปัญหาในด้านการค้า เช่น ฝ้าย กาแฟ โกโก้ ข้าว ไม้ผลและพืชผัก เป็นต้น ซึ่งในปี 2008 ได้ให้ความช่วยเหลือไปแล้วเป็นวงเงิน 48.9 ล้านเหรียญสหรัฐ

เลขาธิการ สศก. เผยต่อไปอีกว่า ผู้แทน สศก. ได้กล่าวถ้อยแถลงในฐานะประเทศสมาชิก ในประเด็นราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลก ประกอบกับการนำพืชอาหารไปผลิตเป็นพลังงานทางเลือก โดยเสนอความเห็นว่า ประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ในเอเชีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตพืชอาหารและพืชพลังงานที่สำคัญ ควรจะได้รับประโยชน์จากความต้องการพืชอาหารและพืชพลังงานที่สูงขึ้น หากแต่ประเทศเหล่านี้กลับไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควร เนื่องด้วยข้อจำกัดในการลงทุน ดังนั้น จึงต้องการการสนับสนุนจากกองทุน CFC ในด้านการค้นคว้าวิจัยและพัฒนา และการเพิ่มมูลค่าผลผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านการผลิตข้าวและพืชพลังงาน ซึ่งไทยจะเป็นผู้ริเริ่มในการเขียนข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนด้านการเงินจาก CFC ต่อไป นอกจากนั้น ยังได้แสดงความยินดีที่คณะกรรมการที่ปรึกษา CFC ได้กำหนดให้โครงการพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตเอทานอลจากข้าวฟ่างหวาน (Linking Smallholder Sweet Sorghum Farmers with the Bio-Ethanol Industry) ของประเทศไทย เป็นโครงการที่มีความสำคัญในลำดับแรก ที่จะได้รับการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ และหวังว่าโครงการนี้จะได้รับการอนุมัติและสนับสนุนงบประมาณจาก CFC ในการประชุม Executive Board ครั้งที่ 47 ในเดือนเมษายน 2552

ทั้งนี้ การที่ไทยสามารถฉวยโอกาสในการแสดงบทบาทผู้นำและผู้ริเริ่มในการดำเนินโครงการด้านการผลิตข้าวและพืชพลังงาน ซึ่งอาศัยการสนับสนุนเงินทุนจากกองทุน CFC โดยเน้นไปที่การค้นคว้าวิจัยและพัฒนา และการเพิ่มมูลค่าผลผลิต นอกจากจะเป็นการแสดงถึงความพร้อมและบทบาทนำของไทยแล้ว ยังจะเป็นการผลักดันผลประโยชน์ให้ตกสู่ประเทศกำลังพัฒนาอย่างแท้จริง และเป็นการส่งเสริมแนวทางการพัฒนาที่เน้นการยืนบนขาของตนเองในระยะยาว ซึ่งเปรียบเสมือนการให้เบ็ดตกปลา แทนที่จะเป็นการให้ปลาเพื่อนำไปกินเป็นครั้งเป็นคราวไปเท่านั้น นายอภิชาต กล่าวทิ้งท้าย

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

แท็ก เอเชีย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ