สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ออกติดตามสถานการณ์การผลิตผลไม้ พบ อากาศหนาวเย็นแต่กลับร้อนเป็นช่วงๆ กระทบต่อผลผลิตผลไม้ปี 52 ในภาคตะวันออก ให้ออกดอกช้ากว่าปกติและออกดอกหลายรุ่น โดยเฉพาะทุเรียนและมังคุด ทำให้ผลผลิตกระจายตัวค่อนข้างดี แต่จะกระจุกตัว ในช่วงเดือนพ.ค. — มิ.ย. นี้
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการติดตามสถานการณ์การผลิตผลไม้ พบว่า สภาวะอากาศแปรปรวนทำให้ผลไม้ภาคตะวันออกซึ่งมีผลไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง ออกดอกช้ากว่าปีปกติ 20 — 30 วัน และออกดอกหลายรุ่นซึ่งคาดว่า ผลไม้จะกระจายออกสู่ตลาดนานกว่าปีที่แล้ว แต่ออกมากในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ขณะนี้เป็นช่วงที่ทุเรียน มังคุด เงาะ ดอกกำลังบาน และลองกองเริ่มแทงช่อดอก ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดหากภาวะอากาศยังแปรปรวนจะมีผลต่อปริมาณและคุณภาพของผลผลิตและจะทำให้ผลไม้ของภาคตะวันออก ออกสู่ตลาดชนกับผลไม้จากภาคใต้ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ กำลังเตรียมแผนการรองรับผลผลิตผลไม้ให้ทันต่อสถานการณ์ ส่วนลำไย แม้ว่ามีการขยายพื้นที่มากในจังหวัดจันทบุรี แต่มีการใช้สารโปตัสเซียมคลอเรตกระตุ้นทำให้มีการออกดอกนอกฤดู จึงไม่มีปัญหาในเรื่องราคา
อย่างไรก็ตาม จากแผนปรับโครงสร้างผลไม้ที่กระทรวงเกษตรฯ ได้รับอนุมัติงบกลางปี 2549 จำนวน 93 ล้านบาท ในการจัดสร้างโรง Fresh Chilled และโรงอบไอน้ำผลไม้ที่จังหวัดจันทบุรี จำนวน 3 แห่ง เริ่มดำเนินการแล้ว 1 แห่ง อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และปรับปรุง 2 แห่ง ซึ่งคาดว่าโรงงานดังกล่าวจะทันต่อการรองรับผลไม้ในปี 2552 นี้ แต่เพื่อเป็นการเตรียมการรับมือปัญหาราคาตกต่ำที่อาจจะเกิดขึ้น ทางกระทรวงเกษตรฯ จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานได้จัดทำแผนงานและโครงการรองรับปัญหาผลไม้ ทั้งการกระจายผลผลิตผลไม้ภายในประเทศ การแปรรูป ตลอดจนการผลักดันการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--