สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและมาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น ทางเลือกใหม่ของเกษตรกร ยกระดับความรู้ให้สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการให้รู้เท่าทันและสามารถปรับตัวตามสภาพทางการค้าระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการดำเนินการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีของไทยในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้มีข้อผูกพันให้ไทยและคู่เจรจาต้องลด/เลิกมาตรการด้านภาษีนำเข้าระหว่างกันไปแล้วนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ตามกฎระเบียบของ WTO แล้ว ยังได้เปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกรวมถึงไทยด้วย สามารถใช้มาตรการบางมาตรการเพื่อปกป้องผู้ผลิตภายในประเทศอันเกิดจากการค้าที่ไม่เป็นธรรมได้ในกรณีที่จำเป็น ซึ่งได้แก่ มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด มาตรการตอบโต้การอุดหนุน และมาตรการปกป้องจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น และแม้ว่าในปัจจุบันประเทศไทยได้มีกฎหมายรองรับการดำเนินมาตรการดังกล่าวแล้ว แต่ในข้อเท็จจริงไทยยังไม่มีการใช้มาตรการเหล่านี้กับสินค้าเกษตรเลย ทั้งๆที่อาจจะมีบางกรณีที่เข้าข่ายสามารถใช้ได้
สศก. ได้เล็งเห็นความจำเป็นที่จะต้องยกระดับความรอบรู้ให้ผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ และสถาบันเกษตรกรที่คาดว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการทุ่มตลาด หรือการทะลักเข้ามาของสินค้าเกษตรโดยตรงให้มีภูมิคุ้มกันทางความรู้และเท่าทันสภาพทางการค้าระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนเพื่อให้เกิดการระดมสมอง และแลกเปลี่ยนความเห็นในการกำหนดแนวทางปฏิบัติในการใช้มาตรการดังกล่าวในอนาคต จึงจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและมาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น: ทางเลือกใหม่ของเกษตรกร” ในวันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม 2552 เวลา 8.30-16.30 น. ณ โรงแรมมารวยการ์เดน โดยได้รับความร่วมมือจากกรมการค้าต่างประเทศในการสนับสนุนวิทยากรร่วม ซึ่งในครั้งแรกนี้จะยังเป็นการสัมมนาในวงจำกัด และหากผลการสัมมนาเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้จะพิจารณาขยายขอบเขตของการจัดสัมมนาออกไปยังส่วนภูมิภาค และปรับรูปแบบให้ครอบคลุมกลุ่มสินค้าให้มากขึ้นด้วย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--