สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาด ผลผลิตมันสำปะหลัง จังหวัดนครราชสีมา ในปี 52 จะมีเกือบ 7 ล้านตัน แต่ความต้องการของตลาดกลับมีแนวโน้มลดลง เผย โครงการรับจำนำแทรกแซงตลาดมันฯ ในนครราชสีมามี
เกษตกรเข้าร่วมแล้ว กว่า 9 หมื่นราย แต่ยังเห็นว่าขั้นตอนยุ่งยากและเสียเวลานาน วอนภาครัฐหาทางช่วยเหลือ
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลผลิตมันสำปะหลัง ปีเก็บเกี่ยว 2552 ของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งคาดว่าจะมีเกือบ 7 ล้านตัน นับว่าเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกมากที่สุดในประเทศไทย หรือคิดเป็นร้อยละ 24.79 ของพื้นที่เก็บเกี่ยวทั้งประเทศ ซึ่งในปีที่ผ่านมา ราคาหัวมันสดอยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนไร่ โดยการขยายพื้นที่ไปยังพื้นที่นาดอน พื้นที่ปลูกอ้อยโรงงาน และพื้นที่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ประกอบกับสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวย ปริมาณน้ำเพียงพอ การดูแลรักษาดี ส่งผลให้ผลผลิตโดยรวมเพิ่มขึ้น ในขณะที่ความต้องการของตลาดกลับชะลอตัวลง มีแนวโน้มลดลง และไม่มีคำสั่งซื้อเข้ามาจากประเทศคู่ค้าที่เคยสั่งซื้อเช่นปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เนื่องมาจากต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่า โดยเฉพาะเวียดนาม ประกอบกับโกดังหรือฉางสำหรับเก็บผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังมีจำนวนจำกัด ไม่เพียงพอสำหรับการเก็บผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ส่วนใหญ่จึงชะลอการสั่งซื้อและรับจำนำจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯลง
โดยจากการเปิดจุดรับจำนำเพื่อแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเริ่มตั้งแต่ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2551 เป็นต้นมา มีลานมันเข้าร่วมโครงการ 40 ลาน และโรงแป้งมัน 14 โรง รวมทั้งสิ้น 54 ราย กระจายอยู่ในแหล่งปลูกมันสำปะหลังที่สำคัญๆ ของจังหวัด และ ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2552 มีเกษตรกรนำหัวมันสดเข้าร่วมโครงการ ประมาณ 1.5 ล้านตันหัวมันสด เกษตรกรกว่า 9 หมื่นรายเข้าร่วมโครงการ ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรจากจังหวัดใกล้เคียง เช่น บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี สระแก้ว และจังหวัดชัยภูมิ โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสนใจมากนักเนื่องจากเห็นว่า ขั้นตอนมีลักษณะยุ่งยาก และใช้เวลานาน ซึ่งทางสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประสานความร่วมมือกันในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการและเร่งหาทางแก้ไขขั้นตอนอุปสรรคต่างๆ ของโครงการต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--