ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร: ยางพารา

ราคายางแผ่นดิบชั้น 3 ตลาดหาดใหญ่ สัปดาห์นี้ 45.99 บาท/กิโลกรัม

1. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาภายในประเทศ

ผลผลิตยางพาราของไทยออกสู่ตลาดในเดือนมีนาคม 181,333 ตัน ลดลงจาก 268,702 ตัน ของเดือนที่แล้วร้อยละ 32.52 เนื่องจากต้นยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้บางส่วนอยู่ในช่วงผลัดใบ นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รมช. เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเชื่อมโยงเครือข่ายเกษตรกร-สถาบันเกษตรกร เรื่องการพัฒนา เกษตรกรและการสร้างเครือข่ายธุรกิจด้านยางพาราครบวงจรที่ จ.จันทบุรี ว่ากระทรวงเกษตรฯเล็งเห็นความสำคัญของพืชเศรษฐกิจยางพารา ซึ่ง สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ จึงได้มอบหมายให้องค์การสวนยางร่วมกับสหกรณ์จังหวัดจันทบุรี สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวน ยางจังหวัดจันทบุรี เร่งดำเนินการเผยแพร่ความรู้ หลักการ วิธีการ การประกอบอาชีพสวนยางอย่างแท้จริง เริ่มตั้งแต่การปลูกยาง การบำรุงรักษา การกรีดยางที่ไม่ทำลายต้นยาง การเก็บผลผลิตยางที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการจัดการขายยางในตลาดท้องถิ่นอย่างถูกวิธี การถ่ายทอดความรู้ด้าน วิชาการ การเพิ่มผลผลิต การแปรรูป ตลอดจนการจัดการตลาดยางพาราในระดับท้องถิ่นและตลาดในชุมชน การสร้างเครือข่ายเกษตรกรยางพารา อย่างครบวงจร เพื่อเป็นการต่อรองในการจัดหาปัจจัยการผลิตและขายผลผลิตยางพารา ปัจจุบันเกษตรกรในภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ และภาคเหนือ นิยมปลูกยางพาราเป็นจำนวนมากเนื่องจากมีรายได้ที่มั่นคง

ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ

1. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 45.13 บาท สูงขึ้นจาก 44.14 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.99 บาท หรือร้อยละ 2.24

2. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 2 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.63 บาท สูงขึ้นจาก 43.64 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.99 บาท หรือร้อยละ 2.27

3. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.13 บาท สูงขึ้นจาก 43.14 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.99 บาท หรือร้อยละ 2.29

4. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 4 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 43.59 บาท สูงขึ้นจาก 42.68 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.91 บาท หรือร้อยละ 2.13

5. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 5 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 42.88 บาท สูงขึ้นจาก 41.97 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.91 บาท หรือร้อยละ 2.17

6. ยางแผ่นดิบคละราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 42.24 บาท สูงขึ้นจาก 40.56 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.68 บาท หรือร้อยละ 4.14

7. ยางก้อนคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 20.06 บาท สูงขึ้นจาก 19.44 บาท ของสัปดาห์ที่ แล้วกิโลกรัมละ 0.62 บาท หรือร้อยละ 3.19

8. เศษยางคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 17.18 บาท สูงขึ้นจาก 16.79 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.39 บาท หรือร้อยละ 2.32

9. น้ำยางข้นคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 46.36 บาท ลดลงจาก 46.83 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.47 บาท หรือร้อยละ 1.00

ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. ซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนเมษายน 2552

ณ ท่าเรือกรุงเทพ

1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 53.02 บาท ลดลงจาก 53.20 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.18 บาท หรือร้อยละ 0.34

2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 51.87 บาท ลดลงจาก 52.05 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.18 บาท หรือร้อยละ 0.35

3. น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 43.89 บาท สูงขึ้นจาก 43.26 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.63 บาท หรือ ร้อยละ 1.46

ณ ท่าเรือสงขลา

1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 52.77 บาท ลดลงจาก 52.95 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.18 บาท หรือร้อยละ0.34

2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 51.62 บาท ลดลงจาก 51.80 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.18 บาท หรือร้อย 0.35

3. น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 43.64 บาท สูงขึ้นจาก 43.01 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.63 หรือ ร้อยละ 1.46

2. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาในตลาดต่างประเทศ

จีนเป็นประเทศผู้ใช้ยางพารารายใหญ่ที่สุดของโลก คาดว่าในปีนี้ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จะมีการเติบโตประมาณร้อยละ 7 ใกล้เคียงกับปีที่ แล้วซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 9 ในปี 2552 จีนคาดว่าจะมีการใช้ยางประมาณ 6 ล้านตัน โดยจะเป็นยางธรรมชาติ 2.6 ล้านตัน ปัจจุบัน International Rubber Study Group ได้ประมาณการการใช้ยางธรรมชาติในปีนี้ไว้ที่ 9.242 ล้านตัน และคาดว่าอีก 11 ปีข้างหน้าจีน จะใช้ยางธรรมชาติประมาณ 4 ล้านตัน

ราคาต่างประเทศซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนเมษายน 2552

ยางแผ่นรมควันชั้น 3

ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์เฉลี่ยกิโลกรัมละ 140.84 เซนต์สหรัฐ (50.08 บาท) สูงขึ้นจาก 139.44 เซนต์สหรัฐ (49.98 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.40 เซนต์สหรัฐหรือร้อยละ 1

ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดโตเกียว เฉลี่ยกิโลกรัมละ 132.08 เยน ( 47.80 บาท) ลดลงจาก 132.88 เยน (48.26 บาท) ใน สัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.80 เยน หรือร้อยละ 0.60

--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 16 — 22 มีนาคม 2552--