กระทรวงเกษตรฯ วางมาตรการเข้ม เตรียมป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ตั้งวอร์รูมติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด ย้ำ เกษตรกรอย่าเลี้ยงสุกรร่วมกับสัตว์ปีก และหมั่นสังเกตอาการของหมู หากผิดสังเกตหรือตายไม่รู้สาเหตุแจ้งกรมปศุสัตว์ทันที
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อรับมือและป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 (H1N1) ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ทั่วโลกตื่นตัว โดยแต่ละประเทศ ได้มีการวางมาตราการในการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กันอย่างเข้มงวด เนื่องจากโรคดังกล่าวยังไม่มีวัคซีนป้องกัน
ในส่วนของประเทศไทย กระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้ทางกรมปศุสัตว์ตั้งวอร์รูมติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่าง ใกล้ชิด เข้มงวดการนำเข้าพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์สุกร และเนื้อสุกร เครื่องใน รวมถึงผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศที่มีปัญหาพบการแพร่ระบาดหรือต้องสงสัยแล้ว โดยให้กรมปศุสัตว์แจ้งไปยังปศุสัตว์จังหวัด และผู้เลี้ยงสุกรให้หลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์ปีก ร่วมกับสุกรในพื้นที่เดียวกัน เพราะอาจจะเกิดการผสมพันธุ์ของไวรัสสัตว์ปีก และสุกร จนเกิดการกลายพันธุ์ได้ รวมทั้งผู้เลี้ยงสุกรที่เป็นไข้หวัดควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสุกรในฟาร์มโดยขอความร่วมมือไปยังเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรหากพบความผิดปกติให้แจ้งกรมปศุสัตว์ทันที ซึ่งแม้ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่า โรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 มีการติดต่อจากหมูสู่คน แต่ผู้เลี้ยงสุกรที่เป็นไข้หวัดควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสุกรในฟาร์ม
ด้านนายมณฑล เจียมเจริญ โฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประเทศไทยนั้น แม้ยังไม่พบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่ได้เตรียมพร้อมในทุกด้านทั้งการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ (Thermo Scan) ตามสนามบินนานาชาติทั่วประเทศ รวมทั้งมีการเฝ้าระวังและตรวจคัดกรองบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในประเทศไทยแล้ว รวมถึงมีการเตรียมและสำรองยาต้านไวรัส โอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) หรือ ทามิฟลู (Tamiflu) ในการรักษาได้ เช่นเดียวกับโรคไข้หวัดนก อีกทั้ง การประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวกสาม เรื่องการรับมือการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะเป็นความร่วมมือระดับภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยประสบความสำเร็จมาแล้วกับมาตรการในการรับมือการระบาดการของโรคไข้หวัดนก ที่นับว่ารุนแรงมากกว่าโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ทั้งนี้ ข่าวการระบาดของโรคดังกล่าว อาจทำให้เกษตรกร และประชาชนเกิดความวิตก กลัวติดเชื้อ และไม่กล้ากินเนื้อหมู ซึ่งแท้จริงโรคระบาดดังกล่าวไม่ใช่โรคที่ติดจากการรับประทานหมู แต่เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่มีสารพันธุกรรมของหมู สัตว์ปีก และจากคนผสมกัน เป็นการกลายพันธุ์ของเชื้อในคน ติดต่อจากคนสู่คนไม่ใช่จากสุกรมาสู่คน ซึ่งประชาชนสามารถรับประทานหมูหรือผลิตภัณฑ์จากหมูได้ตามปกติ แต่ควรปรุงสุกเท่านั้น และเนื้อหมูส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในประเทศ เป็นหมูที่เลี้ยงภายในและมีความปลอดภัยอย่างแน่นอน
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--