สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ
สถานการณ์ตลาดสุกรในสัปดาห์นี้ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะเกิดข่าวการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1 ซึ่งขณะนี้ยังไม่เกิดกับสุกรมีชีวิตในประเทศ ทั้งนี้ได้มีมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังที่เข้มงวดมากขึ้น แต่จากสภาพอากาศที่ร้อนทำให้สุกรเติบโตช้าส่งผลให้ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ขณะที่ความต้องการบริโภคยังคงอยู่ในระดับเดิม แนวโน้มคาดว่าราคาจะทรงตัว
จากข่าวสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1 ได้ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์สุกรของไทย โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยืนยันว่าไม่มีโรคดังกล่าวเกิดขึ้นกับสุกรที่เลี้ยงในประเทศ อีกทั้งได้มีมาตรการเข้มงวดในการติดตามเฝ้าระวังความผิดปกติของสุกร เนื่องจากการผลิตสุกรของไทยเป็นการผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก (ร้อยละ 98 ของผลผลิต) มีการนำเข้าเนื้อสุกรปรุงสุกและผลิตภัณฑ์สุกรแปรรูปเพื่อป้อนตลาดระดับสูงบ้างเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศอิตาลี จีน และเดนมาร์ก รวมทั้งมีการนำเข้าเครื่องในสุกรจากประเทศเบลเยี่ยม เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ซึ่งขณะนี้ได้กำหนดมาตรการป้องกันโดยให้ชะลอการนำเข้าเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์จากประเทศเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่มีการระบาดของโรค เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการนำเข้าสินค้าเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ ส่วนกระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบว่า โรคดังกล่าวระบาดจากคนสู่คน และไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู คาดว่าจะช่วยลดภาวะความหวาดกลัวของประชาชนผู้บริโภคได้ระดับหนึ่ง และไม่ส่งผลกระทบรุนแรงเช่นการระบาดของโรคไข้หวัดนกที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2547
กรมการค้าภายในได้หารือร่วมกับส่วนราชการคือ กรมปศุสัตว์ สศก. และสมาคมผู้เลี้ยงสุกร ในการแก้ปัญหาราคาเนื้อสุกรแพง โดยเห็นชอบร่วมกันที่จะปรับสูตรโครงสร้างราคาใหม่จากเดิมราคาสุกรขายปลีกจะคิดคำนวณจากราคาสุกรมีชีวิต คูณ 2 และบวกกำไร 2 บาท แต่จะแยกเป็นราคาสุกรชำแหละที่คิดจากราคาต้นทุนสุกรมีชีวิตบวกกำไร 10% ส่วนราคาขายปลีกหน้าเขียงจะคิดคำนวณจากราคาสุกรชำแหละบวกค่าใช้จ่าย ซึ่งสูตรนี้จะใช้เป็นราคาแนะนำขายปลีก แต่ไม่ได้เป็นการบังคับราคาเขียงหมู เพราะขณะนี้สุกรที่ออกสู่ตลาดไม่เพียงพอ แต่คาดว่าภายใน 2 เดือนสุกรจะออกสู่ตลาดมากขึ้นราคาจะอ่อนตัวลง
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 60.51 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 59.69 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 1.37 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 57.87 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 61.70บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 61.19 บาท และภาคใต้ กิโลกรัมละ 61.48 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 1,900 บาท (บวกลบ 62 บาท) ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิตในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 63.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา และราคาขายส่งสุกรชำแหละเฉลี่ยกิโลกรัมละ 73.50 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 72.50 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 1.38
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 27 เมษายน - 3 พฤษภาคม 2552--