สศก. เตือนชาวนาอีสานระวังข้าวเรื้อในข้าวหอมมะลินาปี

ข่าวทั่วไป Monday May 25, 2009 14:50 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ออกโรงเตือนเกษตรกรระวังปัญหาข้าวเรื้อ / ข้าวปนในข้าวหอมมะลิ โดยเฉพาะในภาคอีสานเพราะมีการขยายพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังเพิ่ม โดยใช้พันธุ์ชัยนาท 1 และปทุมธานี 1 ในนาปรังปลูกสลับข้าวนาปี หวั่นอาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนทำให้ข้าวหอมมะลิไม่ตรงเสป๊คมาตรฐานข้าวส่งออก

นางนารีณัฐ รุณภัย รองเลขาธิการและรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในปัจจุบันภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้มีการพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มขึ้นจนทำให้เกษตรกรสามารถปลูกข้าวนาปรังได้เพิ่มขึ้นจาก 10 ปีที่ผ่านมาการปลูกข้าวนาปรังเพิ่มขึ้นจาก 0.444 ล้านไร่ ในปี 2542 เป็น 1.263 ล้านไร่ ในปี 2551 และผลผลิตเพิ่มขึ้นจาก 0.420 ล้านตันข้าวเปลือก เป็น 0.685 ล้านตันข้าวเปลือก หรือเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 6.71 และ 4.00 ตามลำดับ

สำหรับปี 2552 คาดว่ามีการเพาะปลูกข้าวนาปรังประมาณ 1.164 ล้านไร่ ได้ผลผลิต 0.629 ล้านตัน ซึ่งพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังมากที่สุดจะอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ประมาณ 0.263 ล้านไร่ ขอนแก่นประมาณ 0.146 ล้านไร่ และนครราชสีมาประมาณ 0.129 ล้านไร่ แต่แหล่งที่สำคัญคือในเขตทุ่งกุลาร้องไห้โดยเฉพาะจังหวัดมหาสารคามมีประมาณ 0.123 ล้านไร่ ร้อยเอ็ดประมาณ 0.116 ล้านไร่ พันธุ์ข้าวที่เพาะปลูกในนาปรังส่วนใหญ่เป็นข้าวพันธุ์ชัยนาท 1 ปทุมธานี 1 และพันธุ์ข้าวอื่น ๆ ที่เกษตรกรสามารถหาซื้อได้ตามโรงสีที่อยู่ในพื้นที่ใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำและไม่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 กับภาครัฐ

ในส่วนของการเพิ่มรายได้โดยการทำนาปรังของเกษตรกรนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่การเก็บเกี่ยวและขนส่งข้าวนาปรังดังกล่าว อาจมีข้าวเปลือกตกหล่นลงพื้นที่อาจก่อให้เกิดข้าวเรื้อเมื่อเกษตรกรทำนาปี ปี 2552 / 53 ในฤดูฝนนี้ เกษตรกรที่ปลูกข้าวหอมมะลิ 105 หรือ กข 15 นาปีจะต้องระมัดระวังเรื่องนี้ให้มาก เพราะข้าวชัยนาท 1 และข้าวปทุมธานี 1 มีลักษณะทางกายภาพเหมือนข้าวหอมมะลิซึ่งยากต่อการมองเห็นด้วยสายตา หากปนเปื้อนมากับข้าวหอมมะลิแล้วจะทำให้ข้าวหอมมะลิไม่ได้มาตรฐานตามมาตรฐานของ มกอช. และมาตรฐานการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ จนในที่สุดข้าวเปลือกของเกษตรกรจะถูกตัดราคาหรือพ่อค้าอาจไม่รับซื้อเป็นข้าวหอมมะลิแต่ซื้อเป็นข้าวเจ้าธรรมดาทั่วไปได้

ดังนั้น การเพาะปลูกข้าวนาปี ปี 2552 / 53 หรือปีต่อ ๆ ไป เกษตรกรควรระวังเรื่องข้าวเรื้อและข้าวปนในนาข้าวหอมมะลิ 105 และ กข 15 เพื่อเป็นการรักษาข้าวคุณภาพดีของไทย ทั้งนี้เกษตรกรควรปรึกษาเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลเพื่อป้องกัน เพราะกำจัดได้ยากกว่าการปลูกสลับกับข้าวเหนียวนาปรังซึ่งสามารถใช้สายตาสังเกตได้ หรือโรงสีอาจมีเครื่องยิงเมล็ดข้าวเหนียวออกจากข้าวหอมมะลิได้ แต่ข้าวปทุมธานี 1 ต้องตรวจสอบ DNA ทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ถูกตัดราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ 105 ของเกษตรทั้งที่ไม่ได้ทำนาปรังด้วย

นางนารีณัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้าวหอมมะลินั้น หมายถึง ข้าวหอมมะลิ 105 และข้าว กข 15 เป็นข้าวที่ปลูกในฤดูนาปี ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพดีที่สุดของไทยและส่วนใหญ่ปลูกอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะทุ่งกุลาร้องไห้ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิคุณภาพดี หอมนุ่ม เหนียว และเมล็ดเรียวยาว เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเป็นสินค้ามาตรฐานตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ให้มาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยต้องมีข้าวหอมมะลิไม่น้อยกว่า 92 % หรือให้มีข้าวชนิดอื่นปนได้ไม่เกิน 8 %

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ