1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา(22 — 28 เม.ย. 2552) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 964.95 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 480.66 ตัน สัตว์น้ำจืด 484.29 ตัน ประกอบด้วย สัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 2.93 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 4.23 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 107.54 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 3.46 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 77.92 ตันการตลาด
ไทย - อาเซียนตั้งสมาพันธ์อาหารทะเล
นายผณิศวร ชำนาญเวช นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ลงนามในปฏิญญาว่าด้วยการจัดตั้งสมาพันธ์อาหารทะเลแห่งอาเซียนร่วมกับสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งของสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ โดยมีนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน และนายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นสักขีพยาน นับเป็นการรวมกันครั้งแรกของภาคเอกชนอาเซียน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านอุตสาหกรรมอาหารของอาเซียน ซึ่งกำหนดจะร่วมมือกันใน 6 ด้าน คือ พัฒนาสินค้าและเทคโนโลยีด้านการผลิต ความร่วมมือด้านมาตรฐานอาหาร คุณภาพ และความปลอดภัยของอาหารสู่ผู้บริโภค ด้านการสร้างความมั่นคงในปัจจัยการผลิต ด้านการตลาด ด้านการลงทุนในอาเซียน และด้านลอจิสติกส์ ผู้นำเข้าชอบกำหนดมาตรฐานการนำเข้าอาหารแบบแปลกๆ และพิสดารขึ้นทุกวัน โดยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ถ้าเราซึ่งเป็นผู้กำหนดมาตรฐานอาหารให้ทั่วโลกยอมรับได้ ก็จะไม่มีผู้นำเข้ารายใดกำหนดมาตรฐานนำเข้าพิสดารได้อีก ทั้งๆที่ประเทศเหล่านั้นไม่มีอุตสาหกรรมอาหารขนาดใหญ่เหมือนไทย เช่น สวิสเซอร์แลนด์ ที่เป็นคนตรวจมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ทั้งที่ไม่มีการผลิตเลย แล้วจะรู้มาตรฐานได้อย่างไร นอกจากนี้ การรวมกันเป็นสมาพันธ์ฯ ก็จะสามารถผลักดันให้รัฐบาลแต่ละประเทศสมาชิกสำรองอาหารเพื่อความมั่นคง โดยเก็บไว้ในรูปของอาหารแช่แข็ง หรืออาหารกระป๋อง ให้มีจำนวนมากพอที่จะบริโภคได้ในเวลา 2 ปี เพื่อไว้กินในยามขาดแคลน หรือเกิดภาวะฉุกเฉินนอกเหนือจากการสำรองของอาเซียน อย่างไรก็ตาม สมาพันธ์ฯ คงไม่ได้ร่วมกำหนดราคาขายสินค้าอาหารประมง หรืออาหารแช่เยือกแข็งในตลาดโลก แต่จะเป็นการรับรู้ข้อมูลการผลิต ราคาขาย ของประเทศสมาชิกให้รู้เท่าทันกัน เพื่อป้องกันการต่อรอง หรือผู้ซื้อกดราคามากกว่า เป็นต้น
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 37.43 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 37.09 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.34 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ ไม่มีรายงานราคาจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 63.77 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 64.40 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.63 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 120.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.3 กุ้งกุลาดำ ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 111.07 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 112.17 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.10 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 108.33 บาทลดลงจากกิโลกรัมละ 108.57 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.24 บาท
2.5 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 55.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 60.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.6 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้ ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 120.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 127.86 บาท ของสัปดาห์ก่อน 7.86 บาท
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 7.63 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 7.37 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.26 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60%(ระหว่างวันที่ 16 - 22 พ.ค.2552) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 34.34 บาทสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 31.57 ของสัปดาห์ก่อน 2.77 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 18 - 24 พฤษภาคม 2552--