ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร: ข้าว

ข่าวทั่วไป Friday June 26, 2009 13:51 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ

1.1 โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552

  • เป้าหมายรับจำนำ จำนวน 6 ล้านตันข้าวเปลือก
  • ระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.-31 ก.ค. 52 (ยกเว้นภาคใต้ ก.ค.-ก.ย. 52)
  • ราคารับจำนำ ข้าวเปลือกเจ้า 100% ตันละ 12,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 5% ราคาตันละ 11,800 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 10%
ตันละ 11,600 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 15% ตันละ 11,200 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 25% ตันละ 10,800 บาท ข้าวเปลือกเหนียว 10% (คละ) ตันละ
9,000 บาท และจากมติ กขช. เมื่อวันที่ 29 เมย. 52 เพิ่มราคารับจำนำข้าวเปลือกเหนียว 10% (เมล็ดยาว) ราคาตันละ 10,000 บาท (ซึ่งเป็น
ข้าวเหนียวคุณภาพดีส่วนใหญ่ปลูกในภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย และพะเยา เป็นต้น)
  • ผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.- 17 มิ.ย.52 มี ปริมาณข้าวเปลือกที่รับ

จำนำ 4,001,663 ตัน คิดเป็นร้อยละ 66.69 ของเป้าหมายที่รับจำนำ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

   จำนวนจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ        --------------- ปริมาณข้าวเปลือกที่รับจำนำสะสม (ตัน) --------------
                                       ข้าวเจ้า         ข้าวปทุมธานี     ข้าวเหนียว        รวมข้าวทุกชนิด
ภาคเหนือ              14 จังหวัด      1 ,583,837          25,061         16,727          1,625,625
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   11 จังหวัด         153,243               -          8,541            161,784
ภาคกลาง              20 จังหวัด       1,646,394         567,860              -          2,214,254
รวม                  45 จังหวัด       3,383,474         592,921         25,268          4,001,663

1.2 โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2551/52

เป้าหมายรับจำนำ จำนวน 8 ล้านตันข้าวเปลือก

ผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2551/52 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 51 - 15 มิ.ย. 52 ปริมาณข้าวเปลือกที่รับ จำนำ 5,360,265 ตัน คิดเป็นร้อยละ 67.00 ของเป้าหมายที่รับจำนำ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

จำนวนจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ ---------------------ปริมาณข้าวเปลือกที่รับจำนำสะสม (ตัน)---------------------

ข้าวเจ้า ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมจังหวัด ข้าวปทุมธานี ข้าวเหนียว รวมข้าวทุกชนิด

ภาคเหนือ             17 จังหวัด   1,319,671     177,530       161,930      21,034    215,275     1,895,440
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  19 จังหวัด      27,905   1,149,908             -           -    153,134     1,330,947
ภาคกลาง             21 จังหวัด   1,672,478           -         7,613     381,589         33     2,061,713
ภาคใต้                3 จังหวัด      72,165           -             -           -          -        72,165
รวม                 60 จังหวัด   3,092,219   1,327,438       169,543     402,623    368,442     5,360,265

ที่มา :กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์

ภาวะการซื้อขายข้าวในสัปดาห์นี้

ราคาข้าวกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยในทุกตลาดยกเว้นตลาดส่งออกยังคงทรงตัวจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะราคาเกษตรกรขายได้ข้าว

เปลือกหอมมะลิ  และข้าวเปลือกเจ้า  5%    ที่สูงขึ้นเนื่องจากเป็นข้าวเก่านาปี    ในตลาดเหลือน้อย  ผลผลิตส่วนใหญ่อยู่ในโครงการรับจำนำภาค
รัฐฯ   ส่วนข้าวเปลือกนาปรังปี 2552  สูงขึ้นเนื่องจากโรงสีข้าวนึ่ง ยังมีความต้องการที่ส่งมอบให้ผู้ส่งออกจึงออกมารับซื้อในราคาสูงขึ้นประกอบกับ
ข้าวเปลือกนาปรังปี 2552  ขณะนี้ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดน้อยลง

การส่งออก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม — 12 มิถุนายน 2552 ประเทศไทยส่งออกข้าวทั้งหมด จำนวน 3,938,294 ตันข้าวสาร ลดลงจาก 5,421,981 ตันข้าวสาร ของการส่งออกข้าวในช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 27.36 (ที่มา: กรมการค้าภายใน)

1.3 ราคา

ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ

ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 13,133 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 13,072 บาท ของ สัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.47

ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี 5% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 10,251 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 10,023 บาท ของสัปดาห์ ก่อนร้อยละ 0.60

ราคาข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ที่เกษตรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 7,171 บาท ราคาลดลงจากตันละ 7,207 บาท ของสัปดาห์ ก่อนร้อยละ 0.50

ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปรัง ความชื้น 14-15% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 9,997 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 9,858 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.41

ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ

ราคาข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 (ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 27,550 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 27,050 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.85

ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 17,450 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 17,370 บาท ของ สัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.46

ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี

ราคาข้าวหอมมะลิไทย ชั้น 2 (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 902 ดอลลาร์สหรัฐฯ (30,623 บาท/ตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับ สัปดาห์ก่อน แต่ลดลงในรูปเงินบาทตันละ 39 บาท

ราคาข้าวปทุมธานี ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 795 ดอลลาร์สหรัฐฯ (26,990 บาท/ตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน แต่ลด ลงในรูปเงินบาทตันละ 34 บาท

ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 555 ดอลลาร์สหรัฐฯ (18,842 บาท/ตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับ สัปดาห์ก่อน แต่ลดลงในรูปเงินบาทตันละ 24 บาท

ราคาข้าวสารเจ้า 25% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 459 ดอลลาร์สหรัฐฯ (15,583 บาท/ตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับ สัปดาห์ก่อน แต่ลดลงในรูปเงินบาทตันละ 20 บาท

ราคาข้าวนึ่ง 5% ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 609 ดอลลาร์สหรัฐฯ (20,676 บาท/ตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน แต่ลด ลงในรูปเงินบาทตันละ 27 บาท

หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 33.9068 บาท

2. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในต่างประเทศ

2.1 อินเดียส่งออกข้าวที่มิใช่บาสมาติไปแอฟริกาใต้

รัฐบาลอินเดียได้อนุญาตให้เอกชนส่งออกข้าวที่มิใช่บาสมาติไปประเทศแอฟริกาใต้ จำนวน 25,000 ตัน ซึ่งข้าวจำนวนนี้ไม่ได้รวมกับ ปริมาณข้าวที่ทางการอินเดียอนุญาตให้ส่งออกข้าวไปยัง 21 ประเทศในทวีปแอฟริกาเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ รัฐบาลอินเดียอาจจะ มีการพิจารณายกเลิกมาตรการห้ามการส่งออกข้าวและข้าวสาลี ซึ่งต้องหลังจากที่รัฐบาลได้แจกจ่ายข้าวจำนวน 25 กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 3 รู เปียต่อกิโลกรัม หรือ ประมาณ 2.27 บาทต่อกิโลกรัมให้กับประชาชนที่ยากจน ซึ่งเป็นสัญญาที่รัฐบาลได้ประกาศระหว่างการเลือกตั้งที่ผ่านมาและภาย หลังจากการประเมินความต้องการบริโภคและปริมาณสำรองภายในประเทศของสินค้าทั้งสองชนิดนี้เสียก่อน อนึ่ง รัฐบาลอินเดียได้ประกาศใช้มาตรการ ห้ามการส่งออกข้าวสาลี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2550 และ ข้าวเมื่อเดือนเมษายน 2551 เพื่อป้องกันมิให้ราคาอาหารภายในประเทศสูงขึ้น

หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 18 มิย 2552 ซึ่ง 1 รูเปีย เท่ากับ 0.7557 บาท

2.2 การส่งออกข้าวของเวียดนาม

ทางการเวียดนาม เปิดเผยว่า ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2552 เวียดนามได้ทำสัญญาขายข้าวแล้วประมาณ 4.76 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าปีที่ ผ่านมาถึงร้อยละ 87 และ เป็นมูลค่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 44,000 พันล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 51 โดยใน จำนวนนี้ได้ทำการส่งมอบข้าวเรียบร้อยแล้วเป็นจำนวน 3.2 ล้านตัน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวนาแถบลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญของ เวียดนามได้เรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มปริมาณการส่งออกจากเป้าหมายเดิมที่ 5.2 ล้านตัน เป็น 6 ล้านตัน เนื่องจากปีนี้ชาวนาผลิตข้าวได้มากและยังคง เหลือฤดูกาลเพาะปลูกข้าวอีก 2 ฤดูกาลและเป็นที่คาดการณ์ว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ ชาวนาแถบลุ่มแม่น้ำโขงจะเพาะปลูกข้าวได้ประมาณ 2 ล้าน ตัน อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนาม ได้พยากรณ์ว่า ในปี 2563 เวียดนามจะมีข้าวไม่เพียงพอสำหรับการส่งออกเนื่อง จากในปี 2563 ประชากรเวียดนามแถบลุ่มแม่น้ำโขงจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3 ล้านคน ส่งผลให้ความต้องการบริโภคข้าวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจาก นี้ การผลิตข้าวโดยวิธีการเดิม ๆ ที่ไม่มีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการผลิตจะทำให้เวียดนามไม่สามารถเพิ่มผลผลิตข้าวได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ในปัจจุบัน รวมทั้ง ชาวนาในปัจจุบันให้ความสำคัญต่อการปลูกข้าวอย่างมีประสิทธิภาพน้อยลง ซึ่งจะทำให้ผลผลิตข้าวที่ได้นั้นเพียงพอสำหรับการบริโภค ภายในประเทศเท่านั้น จากสถิติการผลิตข้าวปี 2550 ของแถบลุ่มแม่น้ำโขงแห่งเดียวมีพื้นที่เพาะปลูกข้าวประมาณ 1.9 ล้านเฮกแตร์ หรือประมาณ 11.88 ล้านไร่ โดยให้ผลผลิตประมาณ 19 ล้านตัน สำหรับปีนี้ผลผลิตข้าวของประเทศ คาดว่า จะอยู่ที่ 20.7 ล้านตัน โดยผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่จะอยู่ ที่ 5,200 กิโลกรัมต่อเฮกแตร์ หรือ ประมาณ 832 กิโลกรัมต่อไร่ แต่ในปี 2563 กระทรวงเกษตรฯ คาดว่า พื้นที่เพาะปลูกข้าวจะลดลงเหลือ เพียง 1.8 ล้านเฮกแตร์ หรือ ประมาณ 11.25 ล้านไร่ ซึ่งเวียดนามจะผลิตข้าวได้สูงสุดเพียง 21 ล้านตัน ในการนี้ รัฐบาลเวียดนามได้ พยายามแก้ไขปัญหาโดยการให้ชาวนากู้เงินดอกเบี้ยต่ำเพื่อนำเงินไปลงทุนซื้อเครื่องจักรที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิตข้าว นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามยัง กังวลเกี่ยวกับคุณภาพข้าวของเวียดนาม เนื่องจากการรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม ระบุว่า ราคาข้าวส่งออกเฉลี่ย ของเวียดนามอยู่ที่ 220 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน หรือ ประมาณ 7,459 บาทต่อตัน คิดเป็นร้อยละ 79.6 ของราคาข้าวเฉลี่ยของโลก ซึ่งเป็นราคาที่ ต่ำกว่าราคาข้าวของประเทศไทย อินเดีย สหรัฐฯ และปากีสถาน ในขณะที่ปริมาณข้าวที่เวียดนามส่งออกมากกว่าสหรัฐฯ ถึงร้อยละ 21.5 แต่กลับทำ กำไรได้น้อยกว่าสหรัฐฯ ถึงร้อยละ 11.3

--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 15 - 21 มิถุนายน 2552-- -พห-


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ