สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 6 ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดตราดและจันทบุรี เผยการดำเนินงานส่วนใหญ่คืบหน้า ชี้พบปัญหาบ้างเล็กน้อยเนื่องจากเป็นโครงการเริ่มใหม่ใช้เป็นปีแรก ยืนยันจะดำเนินการเสร็จทันตามกำหนด
นายธวัชชัย ประยูรสิน รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 6 (สศข. 6) จังหวัดชลบุรี สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังการเข้าร่วมตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร ในพื้นที่จังหวัดตราด และจังหวัดจันทบุรี ร่วมกับคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบและติดตามการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกร คณะที่ 1 โดยมีนายกมล สุขสมบูรณ์ ผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ซึ่งการตรวจสอบติดตามการดำเนินงาน ได้ร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการตรวจสอบระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับตำบล พร้อมทั้งพบปะเกษตรกร รวมทั้งติดตามการดำเนินงานของ ธ.ก.ส. ที่ได้ให้บริการในพื้นที่ในการจัดทำสัญญากับเกษตรกรเพื่อสอบถามผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรคการดำเนินงาน ให้คำปรึกษา ข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปัญหาและให้ความชัดเจนในโครงการประกันรายได้เกษตรกร
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินงานในจังหวัดตราด ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2552 มีเกษตรกรที่ขอยื่นจดทะเบียนเกษตรกร (ทพศ. 1 - 3) จำนวน 1,203 ราย ทำประชาคมแล้ว 1,067 ราย ได้รับใบรับรองขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน 789 ราย ทำสัญญาประกันกับ ธ.ก.ส. แล้วประมาณ 150 ราย (ธ.ก.ส. เริ่มให้บริการในพื้นที่เป็นวันแรก) ส่วนในจังหวัดจันทบุรี มีเกษตรกรที่ยื่นขอจดทะเบียนเกษตรกร (ทพศ. 1 - 3) จำนวน 9,710ราย ทำประชาคมแล้ว 8,913 ราย ได้รับใบรับรองขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน 1,559 ราย ทำสัญญาประกันกับ ธ.ก.ส. แล้ว 717 ราย ซึ่ง ธ.ก.ส. ยืนยันว่าจะดำเนินการได้ทันตามกำหนดเวลา
นายธวัชชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า พบปัญหาอุปสรรคบ้าง เนื่องจากโครงการประกันรายได้ เป็นโครงการใหม่เริ่มใช้เป็นปีแรก ทำให้ต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้ทันกับผลผลิตของเกษตรกรที่จะออกสู่ตลาด ประกอบกับต้องบันทึกข้อมูลเกษตรกรจำนวนมาก ทำให้ระบบเครือข่ายขัดข้องล่าช้า แต่ปัญหาทุกอย่างสามารถดำเนินการได้ทัน เพราะได้มีการปรับปรุงแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ที่มีความมุ่งมั่น เสียสละเวลา เพื่อต้องการให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์อย่างทั่วถึง สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ยังสามารถยื่นขอจดทะเบียนได้ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2552
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--