สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผยผลการวิจัย “การจัดการธุรกิจเงาะ” ปี 52 พบปัญหา อาทิ ระบบการบริหารจัดการผลผลิต การขนส่งจากแหล่งผลิตไปยังตลาดปลายทางทั้งในและต่างประเทศยังขาดประสิทธิภาพ ส่งผลให้การกระจายผลผลิตออกจากแหล่งผลิตล่าช้า ยังมีสินค้าไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน และการนำเงาะคุณภาพด้อยปลอมปนกับเงาะคุณภาพดีออกจำหน่าย ชี้หากสามารถเพิ่มช่องทางการส่งออกทางเรือโดยนำผลงานวิจัยการยืดอายุการเก็บรักษาเผยแพร่ให้กับผู้ประกอบการจะช่วยเพิ่มปริมาณการส่งออกได้อีกทางหนึ่ง
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยผลการศึกษาวิจัย “การจัดการธุรกิจเงาะ” ในปี 2552 พบว่า ระบบการบริหารจัดการผลผลิตตั้งแต่เก็บเกี่ยว บรรจุภัณฑ์ การขนส่งจากแหล่งผลิตไปยังตลาดปลายทางทั้งในและต่างประเทศยังขาดประสิทธิภาพ ทำให้การกระจายผลผลิตออกจากแหล่งผลิตล่าช้า สินค้าไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน ในขณะที่เงาะเป็นผลไม้เน่าเสียง่าย และกระจุกตัวออกสู่ตลาดในช่วงฤดูกาล รวมทั้งออกสู่ตลาดพร้อมกับผลไม้ชนิดอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้ยังมีการนำเงาะคุณภาพด้อยปลอมปนกับเงาะคุณภาพดีมาจำหน่ายในท้องตลาด ทำให้ผู้บริโภคขาดความมั่นใจ จึงส่งผลให้เกิดปัญหาราคาเงาะตกต่ำซ้ำซากทุกปี
ด้านนางนารีณัฐ รุณภัย รองเลขาธิการ สศก. กล่าวเพิ่มเติมถึงเรื่องดังกล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเงาะสำคัญและมีปัญหามากที่สุดในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด ซึ่งผลผลิตกว่าร้อยละ 80 ใช้บริโภคภายในประเทศ โดยช่องทางการกระจายของเกษตรกรจะจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการอื่น ๆ แต่สหกรณ์ยังมีข้อจำกัดในการระบายผลผลิต เนื่องจากคู่ค้าที่สำคัญ ได้แก่ ห้างโมเดิร์นเทรด จำกัดปริมาณการรับซื้อในแต่ละวัน รวมทั้งมีขั้นตอนการปฏิบัติในการรับซื้อที่ยุ่งยาก จึงทำให้การรวบรวมผลผลิตจากเกษตรกรทำได้ในปริมาณน้อย ส่วนการจำหน่ายผลผลิตเพื่อส่งออกยังมีน้อยเพีงร้อยละ 3 เนื่องจากเงาะเป็นสินค้าที่มีอายุการวางจำหน่ายสั้น การส่งออกไปยังประเทศที่อยู่ห่างไกลจำเป็นต้องขนส่งทางอากาศ โดยค่าระวางขนส่งมีราคาแพง และต้นทุนการส่งออกในรูปผลิตภัณฑ์ไปได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ค่าแรงงาน ค่าวัสดุที่ใช้ทำกระป๋อง และค่าวัตถุดิบต่าง ๆ ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย ทำให้ความต้องการบริโภคผลไม้กระป๋องมีแนวโน้มลดลง ผู้ส่งออกจึงรับซื้อผลผลิตได้ในปริมาณที่จำกัด
ดังนั้น หากสามารถเพิ่มช่องทางการส่งออกทางเรือ โดยการนำผลงานวิจัยการยืดอายุการเก็บรักษาเงาะโดยใช้ถุงพลาสติกซึ่งสามารถเก็บได้นานกว่า 3 สัปดาห์เพื่อการส่งออกทางเรือออกเผยแพร่ให้กับผู้ประกอบการจะทำให้ต้นทุนถูกกว่าขนส่งทางอากาศมาก ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณการส่งออกได้อีกทางหนึ่ง และยังเป็นการลดการกระจุกตัวของผลผลิตภายในประเทศ รวมทั้งการส่งเสริมให้เกษตรกรและผู้ประกอบการซื้อขายเงาะตามชั้นคุณภาพ การสนับสนุนการแปรรูปเงาะให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย เช่น เค้ก ไอศกรีม และฟรุตสลัด เป็นต้น ก็จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาราคาเงาะตกต่ำแบบเป็นระบบและยั่งยืน
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--