1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา( 5 — 11 ธ.ค. 2552) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 460.74 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 247.03 ตัน สัตว์น้ำจืด 213.71 ตัน ประกอบด้วย สัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 1.02 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 1.75 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 42.38 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 1.84 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 25.39 ตัน
การตลาด
วมระหว่างประเทศปลงรูปแบบการทำประมงนอกน่านน้ำที่เคยมีสัดส่วนสูงสุด ซึ่งเป็นผลมาจากข้อกำหนดซับซ้อนมากขึ้น ส่วน
รื้อใหญ่องค์การสะพานปลา
นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้องค์การสะพานปลา(อสป.)เร่งรัดดำเนินงานใน 2 เรื่องให้เป็นรูปธรรม ประเด็นแรก ได้แก่ การจัดทำแผนพัฒนาองค์การสะพานปลา โดยให้จัดทำแผนงานและบัญชีแยกเป็น 2 ส่วนขาดจากกันทั้งเชิงส่งเสริมสวัสดิการทางสังคมและเชิงธุรกิจเพิ่มรายได้ให้กับองค์กร ส่วนอีกประเด็นหนึ่ง คือ การพัฒนาพื้นที่ 8 ไร่ ซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งของสะพานปลากรุงเทพ ในปัจจุบันให้เป็นศูนย์บริการจัดการธุรกิจประมงครบวงจรและศูนย์กลางการส่งออกสินค้าประมง เนื่องจากพื้นที่อยู่ในแหล่งเศรษฐกิจของเมืองหลวง จึงต้องหารายได้ให้เหมาะสมกับศักยภาพที่ดิน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับกรุงเทพมหานคร ในการร่วมลงทุนโครงการดังกล่าว ทั้งด้านการบริหารจัดการ สัดส่วนการลงทุน รูปแบบ สถานที่ อาทิ Factory Outlet, Seafood Market ฯลฯ ซึ่งคาดว่าจะมีความคืบหน้าภายใน 2 - 3 เดือน นายศุภชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนงานสำคัญในปี 2553 ที่นอกจากจะพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ชาวประมงแล้ว ยังคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับ อสป. เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 — 15 ล้านบาท ได้แก่ โครงการพัฒนาสะพานปลากรุงเทพดังกล่าวข้างต้น การปรับปรุงท่าเทียบเรือประมงสตูลให้ได้มาตรฐานสุขอนามัย การปรับปรุงสุขอนามัยท่าเทียบเรือประมงระนอง รวมทั้งเพิ่มตลาดสัตว์น้ำประมาณ 40 แพปลา โครงการศูนย์อาหารฮาลาลที่ ท่าเทียบเรือประมงปัตตานี การปรับปรุงท่าเทียบเรือประมงหัวหิน เพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การจัดตั้งตลาดขายส่งสัตว์น้ำที่ท่าเทียบเรือประมงนราธิวาส โครงการตลาดสินค้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ เพื่อผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ อสป. การสนับสนุนการทำประมงนอกน่านน้ำ การหารายได้จากการบริหารทรัพย์สิน อาทิ การจัดตั้ง Seafood Market ที่ท่าเทียบเรือภูเก็ต โดยให้ซื้อวัตถุดิบจากประมงพื้นบ้าน และแก้ปัญหาผู้เพาะเลี้ยงกุ้งใน 11 จังหวัดภาคใต้
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 42.95 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 43.56 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.61 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ ไม่มีรายงานราคาจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 67.17 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 69.53 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 2.36 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯเฉลี่ยกิโลกรัมละ 116.67 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ115.71 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.96 บาท
2.3 กุ้งกุลาดำ ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 108.35 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 105.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 108.33 บาท ของสัปดาห์ก่อน 3.33 บาท
2.5 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.45 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 59.13 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.68 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 75.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.6 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้ ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 110.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.64 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 8.53 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.11 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% (ระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 2552- 3 ม.ค. 2553) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 30.90 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 28 ธันวาคม 2552 -3 มกราคม 2553--