1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดคะเนผลผลิตกาแฟปี 2552/53 มีเนื้อที่ให้ผลผลิตกาแฟทั้งประเทศ 356,867 ไร่ ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 2.32 มีผลผลิตทั้งประเทศ 51,508 ตัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 8.54 เนื่องจากผลผลิตในภาคใต้ลดลง จากสภาพอากาศในช่วงผลิดอกไม่เอื้ออำนวย ฝนทิ้งช่วง ทำให้ดอกกาแฟเสียหายติดผลน้อย โดยผลผลิตทั้งหมดแยกเป็นพันธุ์โรบัสต้า 47,017 ตัน พันธุ์อราบิก้า 4,491 ตัน
กาแฟพันธุ์โรบัสตาปลูกมากในจังหวัดชุมพร โดยปี 2552/53 มีผลผลิตประมาณ 29,482 ตัน รองลงมา คือ ระนอง 12,890 ตัน กระบี่ 2,084 ตัน และสุราษฎร์ธานี 1,817 ตัน ตามลำดับ
กาแฟพันธุ์อราบิก้า ปลูกได้ในภาคเหนือ เนื่องจากมีอากาศเอื้ออำนวย ปลูกมากในจังหวัดเชียงราย 1,898 ตัน รองลงมาคือ เชียงใหม่ 1,628 ตัน แม่ฮ่องสอน 353 ตัน และลำปาง 178 ตัน ตามลำดับ
2. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาในต่างประเทศ
ประเทศเวียดนามผู้ผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสต้า อันดับ 1 ของโลก มีพื้นที่ตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้นบริเวณเหนือเส้นศูนย์สูตร ระหว่างละติจูด 8? 30 และ 23? 22 มีสภาพอากาศเหมาะสมกับการปลูกกาแฟ ด้วยเหตุนี้ทำให้รสชาติกาแฟเป็นที่เลื่องลือ กาแฟที่ปลูกเป็นกาค้ามี 2 ชนิด คือ พันธุ์โรบัสต้า และพันธุ์อราบิก้า
การผลิตกาแฟในเวียดนามมีมูลค่าการผลิตเป็นอันดับสองรองจากข้าว โดยผลผลิตกาแฟจากเวียดนามคิดเป็นร้อยละ 12.6 ของผลผลิตกาแฟโลก เวียดนามเป็นผู้ผลิตกาแฟเป็นอันดับ 2 รองจากบราซิล ปริมาณการส่งออกกาแฟของเวียดนามในปี 2551/52 กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา(USDA) คาดว่าจะส่งออกประมาณ 1.11 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 38.86 ของการส่วนแบ่งการตลาดกาแฟโรบัสต้าของโลก สำหรับพื้นที่ปลูก และผลผลิตเป็นเกษตรกรรายย่อย ซึ่งยึดครองพื้นที่ประมาณ 12.5 — 31.5 ไร่ มีเพียงส่วนน้อยที่ถือครอง 187.5 — 312.5 ไร่
สำหรับปี 2552/53 เวียดนามมีพื้นที่ปลูกกาแฟ 3,125,000 ไร่ ผลผลิตในปี 2552/53 USDA ได้คาดไว้ว่าจะมีผลผลิต 1.10 ล้านตัน
บัญชีสมดุลกาแฟโลก ปี 2552/2553
หน่วย : ตัน
ประเทศ สต๊อกต้นปี ผลผลิต นำเข้าเมล็ด ใช้ในประเทศ ส่งออกเมล็ด สต๊อกปลายปี 1. บราซิล 360,660 2,610,000 - 1,080,200 1,500,000 176,460 2. เวียดนาม 156,660 1,101,100 4,500 59,700 1,080,000 122,340 3. โคลัมเบีย 27,660 732,000 - 75,000 636,000 26,460 4. อินโดนีเซีย 70,980 456,000 21,000 141,000 336,000 9,180 5. เอธิโอเปีย 54,000 25,800 - 132,000 144,000 36,000 6. อินเดีย 106,380 294,000 12,000 97,200 174,000 86,580 7. เม็กซิโก 8,160 270,000 1,200 132,000 144,000 3,360 8. กัวเตมาลา 1,080 228,000 - 20,100 210,000 960 9. ฮอนดูรัส 22,020 240,000 - 14,940 216,000 29,640 10. เปรู 10,320 234,000 - 7,200 228,800 9,120 11. อื่น ๆ 1,585,860 1,455,680 5,142,720 5,504,200 834,700 1,617,480 โลก 2,403,780 7,646,580 5,181,420 7,263,540 5,503,500 2,117,580
ที่มา : กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA)
ราคาตลาดในประเทศ
ราคาเมล็ดกาแฟเกรดคละที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้ เฉลี่ย 53.00 บาท/กิโลกรัม ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาในตลาดต่างประเทศ มีดังนี้
ราคาเมล็ดกาแฟดิบอาราบิก้า ตลาดนิวยอร์กซื้อขายทันทีเฉลี่ย 158.55 เซนต์/ปอนด์ (114.92 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจาก 155.13 เซนต์/ปอนด์ (113.93 บาท/กิโลกรัม) ของเดือนก่อนร้อยละ 2.21
ราคาเมล็ดกาแฟดิบโรบัสตา ตลาดนิวยอร์กซื้อขายทันที่เฉลี่ย 75.50 เซนต์/ปอนด์ (55.26 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจาก 75.35 เซนต์/ปอนด์ (55.35 บาท/กิโลกรัม) ของเดือนก่อนร้อยละ 0.20
สรุปสถานการณ์
ราคาเมล็ดกาแฟเกรดคละ เฉลี่ย กก.ละ 53 บาท ราคาลดลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาตลาดโลกลดลง ถึงแม้ผลผลิตโลกลดลง แต่ราคายังไม่สูงมากนัก สำหรับราคาเมล็ดกาแฟเกรดดี เกษตรกรขายได้ถึงกิโลกรัมละ 57 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 11 - 17 มกราคม 2553--