สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ออกติตตามโครงการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่ภาคกลางของกระทรวงเกษตรฯ พบ เกษตรกรได้รับความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์และสามารถนำมาปรับใช้ได้จริงมากขึ้น ชวนทุกทุกฝ่ายร่วมรณรงค์และช่วยกันผลักดันระบบเกษตรอินทรีย์เพื่อลดต้นทุนและรักษาสิ่งแวดล้อม
นางนารีณัฐ รุณภัย รองเลขาธิการ และโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการติดตามโครงการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่ภาคกลางของกระทรวงเกษตรฯ ว่า จากการส่งเจ้าหน้าที่ออกติดตามโครงการฯ พบว่า เกษตรกรได้รับความรู้ความเข้าใจและทราบถึงปัจจัยการผลิตพืชอินทรีย์ โดยเกษตรกรมีการนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมมาใช้ในการทำปุ๋ยหมัก การใช้สารสกัดจากธรรมชาติในการป้องกันและกำจัดแมลง โดยเหตุผลหลักที่เกษตรกรหันมาเปลี่ยนระบบการผลิตจากเคมีเป็นระบบอินทรีย์ เนื่องจากสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิต และเห็นว่าช่วยรักษาสภาพแวดล้อม ทั้งระบบดิน น้ำ ให้อุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยจากการติดตาม พบว่าเกษตรที่หันมาผลิตแบบอินทรีย์สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ร้อยละ 17 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และปลูกผักที่ได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ยังมีเกษตรกรบางรายที่ยังคงนิยมทำการเกษตรแบบเคมี เนื่องจากเห็นว่าการใช้ปุ๋ยเคมีนั้นให้ผลผลิตมากกว่าปุ๋ยอินทรีย์ และมีความสะดวกมากกว่าสารอินทรีย์ ดังนั้น ทุกหน่วยงานควรร่วมมือกันในการประชาสัมพันธ์ รณรงค์ ส่งเสริม ให้ความรู้ ความเข้าใจ เพื่อปรับเปลี่ยนทัศคติและพฤติกรรมของเกษตรกรให้เห็นถึงคุณประโยชน์ของสารอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง และอยากฝากถึงเกษตรกรทุกท่านให้ช่วยกันบอกต่อ และมีความอดทนเพราะจะเห็นประโยชน์ในระยะยาว เนื่องจากการใช้ระบบอินทรีย์จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาและความเข้าใจถึงจะเห็นประโยชน์ได้อย่างแท้จริง นางนารีณัฐ กล่าวทิ้งท้าย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--