สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 10 ราชบุรี เผยสถานการณ์เพลี้ยแป้งมันสำปะหลังในพื้นที่จังหวัดราชบุรี พบการระบาดยังไม่รุนแรงมากนักเพราะเพิ่งมีการระบาดเป็นครั้งแรก แต่เกษตรกรยังไม่รู้วิธีป้องกัน กำจัด แนะเกษตรกรแจ้ง อบต. และเจ้าหน้าที่เกษตรในพื้นที่ทราบเพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขต่อไป
นายอนุสรณ์ พรชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 10 (สศข.10) จังหวัดราชบุรี สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เพลี้ยแป้งมันสำปะหลังระบาดในพื้นที่จังหวัดราชบุรี พบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 60 และพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 ซึ่งการระบาดของเพลี้ยแป้งดังกล่าวยังไม่มีความรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการปลูกมันสำปะหลังมากนัก เพราะเป็นการระบาดในปีแรก
อย่างไรก็ตาม จากการระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ก็ได้ทำให้เกิดผลกระทบตามมาคือ ทำให้ผลผลิตลดลงประมาณ 25 — 30 % ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรเพิ่มขึ้น เนื่องจากการซื้อยากำจัดศัตรูพืช รวมทั้งทำให้มีการเก็บเกี่ยวเร็วขึ้น ซึ่งขณะนี้เก็บเกี่ยวไปแล้วประมาณ 80 % โดยส่วนใหญ่จะเป็นมันเดือนสิบสอง คือขุดช่วงเดือนตุลาคม — ธันวาคม ด้านคุณภาพของเปอร์เซ็นต์แป้งจากการสอบถามเกษตรกรและลานมัน คาดว่ามีแนวโน้มลดต่ำลงโดยราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยประมาณกิโลกรัมละ1.86 บาท ในขณะที่ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่อยู่ระหว่าง 2.5 — 3.0 ตัน โดยที่ในปี 2552 ผลผลิตเฉลี่ยของจังหวัดอยู่ที่ไร่ละ 3.5 ตัน นอกจากนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักวิธีการป้องกัน กำจัด เพลี้ยแป้ง โดยขณะนี้กระทำได้เพียงซื้อยามาฉีดพ่นไล่เท่านั้น จึงขอแนะนำเกษตรกรว่าหากพบการระบาดต้องรีบแจ้งให้ อบต. และเจ้าหน้าที่การเกษตรในพื้นที่ทราบโดยเร็วที่สุด เพื่อหาแนวทางป้องกันแก้ไขต่อไป
นายอนุสรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากปัญหาเพลี้ยแป้งแล้ว จังหวัดราชบุรี ยังพบการระบาดของด้วงแมงจินูน ซึ่งเป็นปัญหาที่เกษตรกรประสบมาเป็นเวลาช้านาน โดยการระบาดดังกล่าว จะระบาดในพื้นที่ที่เป็นดินทราย และจากการสอบถามเกษตรกรที่ประสบปัญหา ยังไม่มีวิธีป้องกัน กำจัด แต่ก็มีเกษตรกรบางรายใช้วิธีการสังเกตวัฏจักรชีวิตของด้วงแมงจินูน คือจะเลือกปลูกมันสำปะหลังในช่วงเดือนมีนาคม — เมษายน เพื่อจะได้ขุดในช่วงเดือนตุลาคม — พฤศจิกายน ซึ่งมันสำปะหลังจะมีอายุได้ประมาณ 7 เดือน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการปลูกต้องคอยดูแลรักษาอย่างดีและไม่ปล่อยให้หญ้ารก ก็สามารถมีผลผลิตดีได้
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--