สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผยผลการศึกษาต้นทุนโลจิสติกส์ พบ ค่าขนส่งคิดเป็นสัดส่วนสูงสุด ถึงร้อยละ 45 รองลงมาคือต้นทุนค่าสูญเสีย ร้อยละ 30แนะให้ใช้พลังงานทดแทนในการขนส่งและแปรสภาพเพื่อลดต้นทุน รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มแปรรูปมันเส้นสะอาดแทนการขายเป็นหัวมันสด
นางนารีณัฐ รุณภัย รองเลขาธิการ และโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการศึกษาโลจิสติกส์มันสำปะหลังปี 2551/52 ซึ่งพบว่าการกระจายสินค้ามีการเคลื่อนย้ายหัวมันสดจากเกษตรกรถึงท่าเรือส่งออก โดยผ่านกระบวนการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มันเส้น/มันอัดเม็ด และแป้งมัน โดยต้นทุนโลจิสติกส์ทั้งหมดจากเกษตรกรถึงท่าเรือส่งออกของมันเส้น/มันอัดเม็ดเฉลี่ยตันละ 1,917.87 บาท คิดเป็นค่าขนส่งประมาณร้อยละ 45 ของต้นทุนโลจิสติกส์รวม รองลงไป คือ ค่าสูญเสียประมาณร้อยละ 30 สำหรับต้นทุนโลจิสติกส์แป้งมันเฉลี่ยตันละ 2,528.03 บาท คิดเป็นค่าขนส่งประมาณร้อยละ 47 ค่าสูญเสีย ร้อยละ 10 ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทยมีข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบรถไฟรางคู่ รวมทั้งราคาน้ำมัน ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกระบวนการแปรสภาพมีอัตราการสูญเสียสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเส้น/มันอัดเม็ด เนื่องจากในปีนี้เกิดปัญหาราคาตกต่ำ รัฐบาลจึงได้ดำเนินโครงการแทรกแซงมันสำปะหลังด้วยวิธีการรับจำนำในราคาสูงนำตลาด ทำให้เกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังเพื่อเข้าร่วมโครงการ จึงมีดินทรายและ เหง้าติดปนมามาก อีกทั้งมีการรอคิวขายให้โรงงานนาน รวมทั้งการขาดแคลนวัตถุดิบในบางช่วง
ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ควรเน้นส่งเสริมและสนับสนุนการให้ผู้ประกอบการใช้พลังงานทดแทนในการขนส่งและแปรสภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแปรรูปผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังโดยให้มีการลงทุนผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยไบโอแก๊สเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตมันเส้นสะอาดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มก่อนขายให้โรงงานแปรรูป และส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการผลิต ผลิตภัณฑ์ มันสำปะหลังให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งการวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อสร้างความหลากหลายให้ผลิตภัณฑ์และสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมมันสำปะหลังต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--