1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต
กรมประมงประกาศเข้มปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน
ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมงกล่าวว่า จากการที่กรมประมงได้ประกาศใช้มาตรการปิดอ่าวฯ ฝั่งอันดามัน(กระบี่ พังงา)ในปีที่ผ่านๆ มา ผลข้อมูลทางวิชาการพบว่า สามารถรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำที่กำลังมีไข่ และเข้ามาวางไข่เลี้ยงลูก ให้เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นทรัพยากรสัตว์น้ำทางเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้ง จากการที่ได้มีการประกาศขยายพื้นที่ ครอบคลุมถึงจังหวัดภูเก็ต และตรัง รวมทั้งการขยายระยะเวลาการปิดอ่าวจากเดิมในวันที่ 15 เมษายน — 15 มิถุนายน เป็นวันที่ 1 เมษายน — 30 มิถุนายน รวม 3 เดือน ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิดทำการประมงในฤดูปลาที่มีไข่ และวางไข่เลี้ยงลูกในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง ภายในระยะเวลาที่กำหนด ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2551 ซึ่งกรมประมงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวยึดถือและปฏิบัติโดยเคร่งครัด เข้มงวด กวดขัน ไม่มีการ ผ่อนผันแต่อย่างใด และด้วยเหตุนี้ พื้นที่บริเวณที่เคยเสื่อมโทรม ปลาผิวน้ำและปลาหน้าดินที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจหลายชนิดที่เคยหายไป รวมทั้งทรัพยากรสัตว์น้ำที่ลดน้อยลง จากมีการทำประมงที่มากเกินสมดุลของธรรมชาติที่จะผลิตทดแทนได้ทันกลับฟื้นคืนความสมบูรณ์มากขึ้น อธิบดีกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของมาตรการปิดอ่าวฝั่งอ่าวไทยเป็นระยะเวลา 3 เดือน ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ — 15 พฤษภาคม ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานีนั้น ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี ดังนั้น สำหรับฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งกรมประมงจะประกาศปิดอ่าวฤดูปลาที่มีไข่ฯ ในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ โดยจะมีการปล่อยเรือตรวจประมงทะเล ออกปฏิบัติงานในการควบคุมดูแลพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันบางส่วนของจังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต และตรัง จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมพิธีปิดอ่าวฯ ในครั้งนี้และขอให้พี่น้องประชาชน โปรดให้ความร่วมมือกับทางราชการ งดทำการประมงด้วยเครื่องมือต้องห้าม ในพื้นที่กำหนด เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน — 30 มิถุนายนนี้ โดยฝากคำขวัญปิดอ่าวไว้สั้นๆ ว่า “งดจับปลาฤดูมีไข่ อนุรักษ์ไว้ใช้อย่างยั่งยืน”
ในรอบสัปดาห์ผ่านมา(22 — 28 ก.พ. 2553) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,041.22 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 543.71 ตัน สัตว์น้ำจืด 497.51 ตัน ประกอบด้วย สัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 2.41 ตัน 1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 4.09 ตัน 1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 85.63 ตัน 1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 10.85 ตัน 1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 87.35 ตัน
การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 41.32 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 41.78 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.46 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ ไม่มีรายงานราคาจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 61.99 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 62.02 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.03 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯเฉลี่ยกิโลกรัมละ 110.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.3 กุ้งกุลาดำ ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 119.61 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 122.28 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 2.67 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 120.83 บาทลดลงจากกิโลกรัมละ 125.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 4.17 บาท
2.5 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 62.64 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 70.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.6 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้ ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 132.86 บาท สูงขึ้นจาก125.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 7.86 บาท
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.33 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 8.40 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.07 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% (ระหว่างวันที่ 20 - 26 มี.ค. 2553) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 34.90 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 34.44 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.46 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 22 - 28 มีนาคม 2553--