สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผยผลการวิจัยประสิทธิภาพทางเทคนิคการผลิตมันสำปะหลัง โดยใช้การ ไถระเบิดดินดานในพื้นที่ที่มีปัญหาดินดาน พบว่า ช่วยยกระดับผลผลิต ทำให้ได้รับผลผลิตเพิ่มขึ้น 15 % เมื่อเทียบกับพื้นที่ใกล้เคียงที่ ไม่ได้ไถระเบิดดินดาน และประสิทธิภาพทางเทคนิคสูงถึง 87 %
นางนารีณัฐ รุณภัย รองเลขาธิการ และโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปัญหาดินดานนับเป็นอุปสรรคต่อการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมันสำปะหลัง ที่เกิดจากการปลูกซ้ำซากในพื้นที่เดิมเป็นเวลานาน และการไถพรวนไม่ถูกวิธี ไม่มีการเพิ่ม อินทรียวัตถุในดิน ดังนั้น จึงได้มีการจัดทำโครงการจัดระบบพิเศษเฉพาะพื้นที่มันสำปะหลัง ในจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สระแก้ว และกำแพงเพชร เพื่อจัดระบบด้านการผลิต โดยได้ทำการระเบิดดินดาน จัดระบบการให้น้ำ การใช้ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยเคมีและอินทรีย์ เพื่อปรับโครงสร้างดินและเพิ่มผลผลิต ซึ่งได้ทำการวิเคราะห์แบบจำลองทางเศรษฐมิติ พบว่า เกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ไถระเบิดดินดานมีประสิทธิภาพ ทางเทคนิคการผลิตมันสำปะหลังเฉลี่ย 87 % ซึ่งนับว่าสูงกว่าพื้นที่ไม่ได้ไถระเบิดดินดานที่มีค่าเฉลี่ยประมาณ 82% จึงถือได้ว่าเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังมีประสิทธิภาพในการผลิตระดับสูง สำหรับผลผลิตต่อไร่เฉลี่ยในพื้นที่ไถระเบิดดินดานเฉลี่ยอยู่ที่ 4.90 ตัน/ไร่ สูงกว่าพื้นที่ไม่ได้ไถระเบิดดินดานที่มีค่าเฉลี่ย 4.28 ตัน/ไร่ หรือสูงกว่า 15 % และแม้ว่าต้นทุนการไถระเบิดดินดานจะมีราคาแพง แต่การไถ 1 ครั้งจะช่วยปรับโครงสร้างดินได้ 3-5 ปี จึงควรส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยพืชสดเพิ่มเพื่อเพิ่มอินทรีย์วัตถุในดิน
รองเลขาธิการ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ยังไม่มีการรับจ้างไถด้วยรถไถระเบิดดินดาน ประกอบกับรถไถชนิดนี้มีราคาแพง การส่งเสริมไถระเบิดดินดาน จึงควรมีการสนับสนุนเงินทุนให้แก่สถาบันเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร หรือ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในการจัดซื้อรถไถระเบิดดินดาน เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการที่คุ้มต่อการลงทุน
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--