สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผยสถานการณ์การผลิตลำไยในฤดูของแหล่งผลิตสำคัญใน 8 จังหวัดภาคเหนือ พบมีผลผลิตรวมทั้งประเทศร้อยละ 80 ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 15 เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและหนาวเย็นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ต่อเนื่อง คาดจะมีปริมาณออกสู่ตลาดน้อย จึงไม่น่าจะเกิดปัญหาราคาตกต่ำ แต่ในขณะเดียวกันก็ได้เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดปัญหาขึ้นจริง
นางนารีณัฐ รุณภัย รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การผลิตลำไยในฤดู ซึ่งในปีนี้ได้ประมาณการข้อมูลผลผลิตลำไยของ 8 จังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตสำคัญในภาคเหนือได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ ตาก แพร่ และน่าน ที่มีผลผลิตรวมกันถึงร้อยละ 80 ของลำไยทั้งประเทศ ประมาณการผลิตไม่ต่ำกว่า 420,038 ตัน ลดลงจากปีที่แล้วถึง 75,577 ตัน คิดเป็นร้อยละ 15 โดยมีสาเหตุมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและมีความหนาวเย็นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเป็นปีที่ลำไยน่าจะมีการพักตัวเนื่องจากปีที่แล้วลำไยให้ผลผลิตสูง มีผลดกมากจนเป็นเหตุให้ราคาตกต่ำมาแล้วนั้น จากการที่ผลผลิตในปีนี้จะมีปริมาณออกสู่ตลาดน้อยลง จึงไม่น่ามีปัญหาราคาตกต่ำเหมือนดังเช่นปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่สามารถวางใจได้ เนื่องจากผลผลิตดังกล่าวยังคงกระจุกตัวในช่วงเดือนกรกฏาคมและสิงหาคม ซึ่งรวมกันแล้วมีผลผลิตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของผลผลิตลำไยในฤดู ดังนั้นในส่วนของภาคราชการจึงต้องเตรียมรับมือกับปัญหาดังกล่าว โดยคณะทำงานย่อยสำรวจไม้ผลเศรษฐกิจภาคเหนือจะได้นำเสนอข้อมูลดังกล่าวต่อคณะอนุกรรมการป้องกันแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคเหนือ ที่จะจัดประชุมขึ้นในปลายเดือนเมษายนนี้ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผลจากการประชุมนี้คาดว่าจะนำไปสู่การกำหนดนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่การปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านการผลิต การตลาดโดยเฉพาะเรื่องของราคาผลผลิตลำไยในปีนี้ นางนารีณัฐ กล่าว
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--