สศข. 7 คาดสถานการณ์ด้านการผลิตการตลาดข้าวนาปรังภาคกลางปี 53

ข่าวทั่วไป Tuesday May 4, 2010 13:14 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 7 ชัยนาท คาดการณ์ภาวะการผลิตข้าวนาปรังปี 53 เผยผลผลิตอาจลดลง และราคาอาจผันผวนขึ้นลงได้เนื่องจากผลกระทบจากอากาศ ภาวะภัยแล้ง รวมทั้งโรคระบาดจากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล หนูนา เป็นต้น แนะทางแก้ควรระบายข้าวในสต๊อกแบบรัฐต่อรัฐเพื่อลดความวิตกกังวลของโรงสี และกลไกด้านราคาให้กลับสู่ภาวะปกติอันจะส่งผลให้ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้น

นางจันทร์ธิดา มีเดช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 7 (สศข.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สศข. 7 ได้คาดการณ์ภาวการณ์ผลิตข้าวนาปรังปี 2553 ในพื้นที่รับผิดชอบ 10 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สุพรรณบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท ลพบุรี และสระบุรี ที่มีการทำนาปรัง 2 รอบว่า มีพื้นที่รวม 4.406 ล้านไร่ ขณะที่ผลผลิตคาดว่าจะลดลงจากปีก่อนร้อยละ 2.98 เหลือประมาณ 3.144 ล้านตัน

ซึ่งหากมีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยก็จะส่งผลให้ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้น แต่ปรากฏว่าราคากลับปรับตัวในทิศทางตรงกันข้าม เนื่องจากหลายปัจจัยด้วยกันได้แก่ ปัจจัยแรก ขณะนี้เป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวนาปรังออกสู่ตลาด โดยปีนี้ทำการเก็บเกี่ยวเร็วกว่าปีที่ผ่านมา เพราะสภาพอากาศที่ร้อนประกอบกับการประกาศงดส่งน้ำทำนาปรังรอบ 2 ทำให้เกษตรกรต้องเร่งทำนาเร็วขึ้น จึงทำให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดในช่วง เดือนเมษายนถึงร้อยละ 28 ของผลผลิตทั้งหมดและผลผลิตสะสมรวมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม ออกสู่ตลาดมากถึงร้อยละ 40 ของผลผลิตทั้งหมดของภาคกลาง

ปัจจัยที่สอง ความไม่แน่นอนของข้อมูลการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาล เพราะหากมีการประมูลราคาข้าวที่พ่อค้าส่งออกประมูลได้จะถูกอ้างเป็นฐานราคาที่พ่อค้าส่งออกจะรับซื้อข้าวจากโรงสี ทั้งที่เป็นข้าวคุณภาพต่างกันทำให้โรงสีไม่กล้ารับซื้อข้าวจากเกษตรกรไว้ในสต็อก ปัจจัยสุดท้ายคือ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ราคาข้าวมีแนวโน้มขยับตัวสูง ทำให้โรงสีคาดการณ์ว่าแนวโน้มราคาข้าวจะดีขึ้นอีกจึงสต็อกข้าวไว้จำนวนมากจนเต็มโกดัง แต่เมื่อราคาลดลงโรงสีจึงไม่มีกำลังที่จะซื้อข้าวเพิ่ม จึงทำให้ราคาที่เกษตรกรขายได้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมตกต่ำลงต่อเนื่องถึงเดือนเมษายน ดังนั้น แนวทางแก้ไขปัญหาข้าวราคาตกต่ำรัฐบาลควรระบายข้าวในสต็อกแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เพื่อจะลดความวิตกกังวลของโรงสี ซึ่งจะทำให้กลไกด้านราคากลับสู่ภาวะปกติส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น นางจันทร์ธิดา กล่าว

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ